วิธี เช็ค โทรศัพท์ iphone มือสอง

หวังว่าวิธี ข้างต้น จะช่วย ให้ท่านๆ เลือก ซื้อ iPhone ผ่าน internet ได้ง่ายขึ้นนะครับ แต่อย่างไรก็ดี ควรนัดเจอ เพื่อทำการซื้อขาย หรือ จากแหล่งที่เชื่อถือได้

บทความนี้เกิดขึ้นเพราะมีคนถามในไลน์จาก ร้าน Bkkphone มามากมายเหลือเกินว่า อยากรู้ว่าพวกผมเช็ค iphone กันอย่างไร ถ้าเป็นมือหนึ่งที่ศูนย์ก็คงไม่ต้องเช็คอะไรมากมาย แต่ถ้าเป็นมือสองคงต้องพอมีความรู้อยู่บ้างครับกันโดนหลอกนะครับ บางคนอาจจะไปซื้อมาแล้ว ร้านบอกว่าเครื่องไทย ซื้อไปกลับเป็นเครื่องนอก บางคนซื้อไปแล้วร้านบอกว่าเครื่องศูนย์ ศูนย์จริงครับ แต่กลายเป็นเครื่องที่ผ่านการเคลมมาแล้วซะงั้น เอาเป็นว่าผมจะบอกถึง วิธีการเช็คไอโฟน ขั้นตอนง่ายๆ ที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไปให้เราได้รู้กันนะครับ ก่อนไปซื้อ iphone มือสอง กันมาใช้นะครับ

1 ตรวจดูสภาพจอเป็นอันดับแรก

อันดับแรกที่ควรดูเลยครับคือจอ iphone ที่เราต้องการซื้อ ว่ามันมีรอยร้าว รอยแตก รอริ รึเปล่า ถ้ามีก็เตรียมมองหาเครื่องอื่นๆ ได้เลยครับ เพราะราคาจอภาพมันแทบจะครึ่งนึง หรือเกินครึ่งของราคามือถือเลยละครับ และอีกอย่างนึง หากเป็นมือถือที่ติดฟิลม์กระจก แล้วฟิลม์กระจกดันร้าว หรือแตก เราควรให้เจ้าของร้านง้างฟิลม์ออกให้เห็นด้วยนะครับ อย่าไปเสียดายฟิลม์ ไม่ใช่เชื่อเขาไปเสียหมด ว่าแตกแค่ฟิลม์ เพราะมันมองยากครับ และเคสแบบนี้ร้านเราเคยเจอมาแล้วนะครับ จอภาพสำหรับไอโฟนรุ่นหลายๆ ปีแล้วนั้น บางตัวจะมีอาการจอเสี่อมนะครับ ให้ท่านดูจอภาพโดยไปที่ Settings > Display & Brightness แล้วเลือกแสงให้สว่างที่สุดแล้วลองดูครับว่า มีเขม่ารอบๆ จอหรือเปล่า ( ณ วันนี้ อาการเขม่าที่เจอบ่อยสุดคือ iphone 6 ครับ ) หรือมีจุดไบร์ทบ้างหรือเปล่า  หากมีให้ลองหาเครื่องอื่นแทนนะครับ และเรื่องจอลองดูอีกอย่างนึงครับว่าเคยเปลี่ยนมาไหม โดยการใช้มือบีบดูครับ ถ้าจอยุบลงไปตามแรงที่เราบีบให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่า iphone ตัวนี้เคยผ่านการเปลี่ยนจอมาครับ

ขอสรุปอาการจอที่เจอกันได้บ่อยๆ นะครับ กรุณาสังเกตให้ดีนะครับไม่งั้นเสียดายแย่เลย

  • ขอบเหลือง – เปิดแสงให้เต็มที่ แล้วเข้าไปที่ Setting หน้าจอขาวๆ จะสังเกตุเห็นขอบจอมีสีเหลืองครับ
  • จุดไบร์ท – เปิดแสงให้เต็มที่ แล้วเข้าไปที่ Setting หน้าจอขาวๆ จะสังเกตุจุดสีขาวนะครับมองง่ายมากๆ
  • จอมีเส้น – อันนี้ไม่ต้องบอกกันแล้วครับ ถ้าไม่ขายถูกจริงๆ ก็อย่าไปยุ่งเลยครับ
  • ตรงขอบจอเผยอ – อันนี้ 80% คือผ่านการแงะจอมาแล้วครับ อีก 20% คือทำตก หรือกระแทกแบบรุนแรง ให้ทดสอบโดยการบีบแล้วมันยุบลง หรือถ้าเคสหนักๆ มองด้วยตาเปล่าก็เห็นแล้วครับ
  • จอร้าว – อันนี้มองง่ายเช่นเดียวกัน อย่าไปเชื่อนะครับว่าเป็นรอยที่ฟิลม์ ลองแกะดูเลย ฟิลม์ไม่กี่บาท รับจากเสือป่า อันละ 10 บาทเอง 555

2 กล้องหน้าหลัง และสแกนหน้า

ตรวจเช็คกล้องหน้า และกล้องหลังของไอโฟน ว่าใช้งานได้ปกติไหม เปิดแฟลช หรือเปิดไฟฉายมีไฟส่องสว่างไหม ขอดูเลยนะครับ อย่าได้เกรงใจ เพราะมีบางกรณีที่กล้องใช้งานไมได้ก็มีครับ และต้องตรวจสอบสภาพกระจกตรงเลนส์กล้องด้วยครับ ว่ามีรอยขูดขีดหรือร้าวไหม ถ้าเป็นแบบนั้นรับรองว่าได้มามีน้ำตาตกในครับ เพิ่มเติม อย่าลืมดูฝุ่นที่อยู่ในเลนส์ด้วยนะครับ อีกอย่างที่เจอบ่อยคือสแกนหน้าเสีย ลองแสกนดูด้วยนะครับ

3 เสียง และสั่น และปุ่มเพิ่มลดเสียง

ลองเช็คดูก่อนว่า มันมีเสียงไหม และสั่นไหม วิธีดูก็ทำยังไงก็ได้ให้มันมีเสียงนั่นละครับ หรือถ้าถึงตรงนี้แล้วยังไม่รู้ให้กดไปที่ Settings > Sounds & Haptics แล้วลองเพิ่มลดเสียงดู หากจะลองสั่นให้ไปลองกดปุ่มเงียบเสียงด้านข้างเครื่อง ถ้าสั่นก็ถือว่าปกติครับ และอย่าลืมลองกดปุ่มเพิ่มหรือลดเสียงด้านข้างของมือถือดูนะครับ ว่ามันกดได้ปกติรึเปล่า รวมถึงปุ่มโฮม(ถ้ามี) และปุ่มปิด-เปิดเครื่องด้วยครับ อีกกรณีนึงหากเครื่องที่โดนบิวท์มา หรือย้อมมานั้นที่เคยเจอคือ สั่นทีเสียงดังไปถึงหน้าประตูบ้านเลยครับ ดังมาก ถ้าดังผิดปกติให้ระวังนะครับ หากไม่รู้ว่าดังยังไงถึงผิดปกติ ลองเอา iphone เพื่อนมาทดสอบเสียงดูก็ได้ครับ จริงๆ มันเงียบมากเลยนะ

4 เรื่องของตำหนิ

จะกล่าวถึงเรื่องตำหนิ สักเล็กน้อยนะครับ เนื่องจากมือถือมันเป็นของมือสอง บางตัวก็อาจจะมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นเราควรถามเจ้าของร้านตรงๆ เลยว่ามีตำหนิตรงจุดไหนบ้าง หากบอกว่าไม่มีตำหนิก็ต้องไม่มีตำหนิจริงๆ เป็นการเช็คความซื่อสัตย์กับเจ้าของร้านด้วยครับ และเครื่องที่มีตำหนิหนักๆ ส่วนใหญ่เค้าก็ลดราคาลงมาอยู่แล้วครับ ราคาไม่มีวันเท่าเครื่องสวยไร้ตำหนิ ที่แย่ที่สุดคือไม่บอกตำหนิ แล้วขายในราคาเครื่องสวยไร้ตำหนิ หวังเพียงลูกค้าจะมองไม่เห็น ฉะนั้นดู และถามด้วย จะดีที่สุดครับ

5 อุปกรณ์สายชาร์จ และหูฟัง ฯลฯ

ถ้าเจ้าของร้านบอกว่าครบ ก็ต้องมีครบนะครับ จนกระทั่ง เข็มจิ้มซิม ตัว Convert หูฟัง (สำหรับตัว iphone X ลงไป) และคู่มือนะครับ จากนั้นให้ลองเทสใช้งานเลยครับ เช่นสายชาร์จให้ลองชาร์จดู หูฟังลองฟังเสียงดูว่าปกติดีไหม สายชาร์จแท้ไหม ถ้าแท้แล้วบอกเทียมแล้วยังมาขายราคาแพง ก็แย่นะครับ เดี๋ยวคราวหน้าจะมาบอกวิธีดูว่าสายชาร์จไอโฟนอันไหนแท้อันไหนเทียมต่อไปก็แล้วกันนะครับ

6 ซิมการ์ด

ง่ายมากครับ ลองใส่ซิมเราเลยว่ามันใช้งานได้ปกติไหม เคสที่เคยเจอคือเครื่องมาดีทุกอย่าง แต่ใช้ซิมไม่ได้ อันนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่า ยังอยากได้อยู่รึเปล่า ถ้าเจอปัญหานี้ โดยเฉพาะถ้าท่านต้องการซื้อเครื่องนอก ต้องดูจุดนี้ให้ดีครับ (เพราะบางประเทศนั้น ใส่กับซิมไทยไม่ได้ ต้องมีวิธีอันวุ่นวายสารพัดถึงจะทำให้ใช้ได้) และอย่าลืมดูสักนิดนะครับ ว่าถาดใส่ซิมนั้นใส่แล้วปิดได้สนิทพอดีรึเปล่า ถ้าปิดแล้วมันยังนูนออกมาให้ลองดูที่ยางกันน้ำว่ามันปลิ้นออกมาไหม

7 ดูโมเดลดีๆ (Model)

วิธีการเช็คไอโฟน  ของท่านนั้นเป็นเครื่องไทย หรือเครื่องนอกให้ท่านกดไปที่ Settings > General > About  แล้วลองไปดูที่ Model นะครับ ลองดูตัวท้ายให้ดี ตัวอย่างของผมเป็น MQAC3TH/A ให้ลองสังเกตที่ 2 – 3 ตัวท้ายนะครับ ถ้าเป็นเครื่องไทย จะเขียนว่า TH/A ครับ ถ้าเป็นเครื่องนอกจะเขียนเป็นตัวของรหัสประเทศนั้นๆ ครับ เช่น JP ZP ฯลฯ และถ้าเป็นเครื่องที่เคยผ่านการเคลมมาจะเป็นโมเดล LL ครับ ไม่ได้กล่าวหาว่าเครื่องนอกไม่ดีนะครับ แต่ราคาเครื่องนอกมักจะถูกกว่าเครื่องไทยครับ จะดูเฟลมากเลย หากไปซื้อ iphone มาจากร้านขายมือสอง แล้วเค้าขายเครื่องนอก ในราคาเครื่องไทย !!!

8 เช็ควันหมดอายุการรับประกัน

ข้อนี้ไม่บอกก็คงต้องรู้กันใช่ไหมครับว่า อย่าลืมไปเช็ควันรับประกันมือถือด้วยนะครับ ตามที่ผู้ขายบอกว่า ประกันยาวถึงวันโน้น-วันนี้ นั้น มันเป็นแบบนั้นจริงๆ รึเปล่า โดยที่ให้เข้าไปเช็คได้ที่เว็บ //checkcoverage.apple.com และอย่าลืมถามร้านที่ท่านซื้อด้วยว่า มีประกันร้าน หรือประกันใจให้อีกกี่วัน อย่าลืมขอใบเสร็จหลังซื้อทุกครั้ง

9 เช็คสภาพแบตเตอรี่

วิธีการเช็คไอโฟน ข้อนี้หลายคนอาจมองข้ามไป หรือหลายๆ คนอาจจะไม่ได้สนใจดูกันเลยนะครับ ที่ผมต้องเอามาลง ก็เพราะเห็นเพื่อนๆ หลายคน ซื้อไอโฟนมือสอง ไป แล้วเจอปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม แบตเตอรี่เสื่อมก็คือชาร์จเข้าไวเต็มไว แต่พอถอดสายชาร์จมาใช้แปปเดียวก็หมดครับ ก็ต้องชาร์จใหม่ ถ้าซื้อมาแล้วเจอแบบนี้ใครก็คงไม่ชอบ ยกเว้นก็เสียแต่ว่า ไปซื้อกับร้านที่แจ้งอยู่แล้วว่ามือถือตัวนี้แบตเสื่อมนะ แล้วก็ลดราคาตรงจุดนี้ อันนี้ก็ว่ากันไปครับ วิธีดูสภาพแบตเตอรี่ของไอโฟนเบื้องต้น สำหรับ ios เวอร์ชั่นปัจจุบันปี 2018 นั้นให้เข้าไปที่ Settings > Battery > Battery Health (Beta) แล้วลองดูค่าเปอร์เซ็นต์ของ Maximum Capacity นะครับ อย่างดีอย่าให้มันต่ำกว่า 85% เป็นอันใช้ได้ครับ

10 icloud และรหัสผ่าน *สำคัญ

อย่าซื้อไอโฟนที่ติดไอคลาวด์ !!
อย่าซื้อไอโฟนที่ติดรหัสผ่าน !!
อย่าซื้อไอโฟนที่ติดรหัส Reset !!

3 บรรทัดด้านบน เป็น กฏเหล็ก ของทุกคนที่คิดจะซื้อ iphone มือสองนะครับ หากติดอันไดอันนึง หาเครื่องใหม่ หรือหาร้านใหม่ได้เลยครับ อย่าเห็นแก่ของถูก เรื่อ icloud และรหัสผ่านนั้น แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าคนขายยังไม่สามารถปลดรหัสผ่านได้ เราก็ไม่ควรซื้อนะครับ (ปลดไม่ได้แล้วจะเช็คเครื่องยังไง) ส่วนสุดท้าย เป็นสิ่งที่มองข้ามกันเยอะ คือ รหัส Reset ไอโฟนครับ รหัสรีเซ็ทอยู่ตรงไหนดูยังไง ให้ท่านเข้าไปที่ Settings > General > Reset แล้วลองกด Reset ไป 1 ทีดู ถ้าไม่ติด มันจะถามยืนยันอีกทีว่าจะรีเซ็ทไหม แต่ถ้าติด มันจะถามรหัสผ่านครับ ซึ่งหากซื้อไปแล้วอยากจะ Reset เครื่องก็ต้อง ลำบากไปใช้ DFU MODE อีก ฉะนั้นหลีกเลี่ยงนะครับ

เอาหละ หมด 10 ข้อนี้ไป ผมว่าถ้าเช็คให้หมดคุณจะได้ iphone มือสอง กลับไปในสภาพที่คุณต้องพอใจแล้วละครับ ไม่ต้องมาบ่นตอนหลังว่าโดนร้านโน้นร้านนี้หลอก เราต้องดูให้เป็นก่อนเข้าไปซื้อนะครับตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ลองเอาไปใช้กันดูครับ หากชอบบทความนี้ รบกวนแชร์ให้ด้วยนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนรอบข้างตัวเรา ที่กำลังสนใจหา iphone มือสองมาใช้ครับ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก