สาระน่ารู้ กับหน่วยกิโลกรัมของถังซัก
🤔เคยสงสัยไหมว่าความจุถังซักของเครื่องซักผ้ามีหน่วยวัดความจุกันเท่าไหร่นะ. ซึ่งวันนี้เราจะมาสรุปรายละเอียดให้ดูกันว่า หน่วยความจุของถังซักวัดยังไง
.
จากปริมาณผ้าแห้งที่จะนำเข้าเครื่องในการซัก 1 ครั้ง ไม่ได้วัดจากน้ำหนักผ้าตอนผ้าเปียกนะครับ การวัดน้ำหนักผ้าแห้งเป็นกิโลกรัมต่อถังซักจะใช้เกณฑ์การแบ่งน้ำหนักตามประเภทของผ้า มาตรฐานสากลกันไว้ดังนี้ครับ
.
เสื้อทั่วไป
จำนวน 25-30 ชิ้น น้ำหนักจะอยู่ที่ 5-6.9 กิโลกรัม, 36-45 ชิ้นน้ำหนักจะอยู่ที่ 7-8.9 กิโลกรัม
กางเกงทั่วไป
9-12ชิ้น น้ำหนักจะอยู่ที่ 5-6.9 กิโลกรัม, 13-16 ชิ้นน้ำหนักจะอยู่ที่ 7-8.9 กิโลกรัม
ผ้าปูที่นอน
10-13 ชิ้น อยู่ที่ 5-6.9 กิโลกรัม, 14-17 ชิ้นน้ำหนักจะอยู่ที่ 7-8.9 กิโลกรัม
ส่วนผ้านวมนั้นจะซักได้เฉพาะเครื่องที่มีถังความจุ 11 กิโลกรัมขึ้นไป
.
และนี้คือการดูคร่าวๆ หวังว่าคงพอเป็นแนวทางสำหรับท่านที่กำลังสังสัยเรื่อง การเลือกขนาดถังซักครับ 😁
.
👉นอกจากนี้หากใครสนใจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เรายังมีบริการขาย มีให้เลือกกันหลากหลายขนาด พร้อมบริการให้ครบวงจร สนใจติดต่อได้เลยครับ ☎️โทรเลย . 02-101-2036 , 089 000 4694
ทางเราพร้อมบริการให้ลูกค้าทุกท่านครับ😍
เครื่องซักผ้า LG ขนาด 7 กิโลกรัม เป็นเครื่องซักผ้าขนาดเล็กสำหรับการใช้งาน 1 – 2 คน หรือในบ้านที่ซักผ้าบ่อยประมาณ 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ เครื่องซักผ้าแอลจีขนาด 7 กิโลกรัมมีให้เลือกใช้ทั้งแบบเครื่องซักผ้าสองถัง เครื่องซักผ้าฝาหน้า และเครื่องซักผ้าฝาบน โดยเครื่องซักผ้าขนาด 7 กิโลกรัมแต่ละชนิดจะใส่ผ้าได้ในปริมาณที่เท่า ๆ กัน คือประมาณ 25 – 30 ชิ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเภทของผ้าที่ซักด้วย
การใส่ผ้าในเครื่องซักผ้า LG และการซักที่ถูกวิธี
แม้ว่าเครื่องซักผ้าแอลจี ขนาด 7 กิโลกรัมจะมีขนาดถังซักมากถึง 7 กิโลกรัม แต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้รองรับมากถึงขนาดนั้น เพราะในการใช้งานจริงต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการ
ระดับน้ำ
แม้จะเป็นเครื่องซักผ้าขนาด 7 กิโลกรัมเหมือนกันแต่ระดับน้ำที่รองรับของเครื่องซักผ้าแต่ละชนิดนั้นไม่เท่ากัน เนื่องจากระบบการทำงานของเครื่องซักผ้าแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ในการใช้งานควรเลือกระดับน้ำให้เหมาะสมกับขนาดของผ้า เพราะหากใส่น้ำน้อยเกินไปจะทำให้ผ้าซักไม่เกลี้ยง หากเลือกระดับน้ำมากเกินไปก็จะทำให้เปลืองเวลา เปลืองน้ำ และเปลืองไฟด้วย
ชนิดของผ้า
เพราะผ้าแต่ละชนิดมีเนื้อผ้าที่ไม่เหมือนกัน บางตัวผ้าหนา บางตัวผ้าบาง ในการใส่ผ้าจึงควรแยกซักระหว่างผ้าหนาและผ้าบาง หากเป็นผ้าบาง เช่น ผ้าคอนตอน ผ้าชีฟอง ฯลฯ สามารถใส่ถังซักประมาณ 25 – 30 ตัว แต่หากเป็นผ้าหนา เช่น ผ้ายีนส์ ผ้ากำมะหยี่ ฯลฯ ควรซักครั้งละประมาณ 10 – 15 ตัว เพราะหากใส่มากเกินไปจะทำให้ถังแน่นและซักได้ไม่เกลี้ยง นอกจากนี้ยังทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักและพังเร็วด้วย
ประเภทของผ้า
นอกจากเสื้อผ้าแล้วเรายังใช้เครื่องซักผ้าซักผ้าห่ม ผ้านวม ผ้าขนหนู ผ้าปูที่อื่น ผ้าม่าน และชนิดอื่น ๆ จึงควรดูให้แน่ใจว่าผ้าที่จะนำไปซักนั้นใหญ่เกินกว่าขนาดถังซักหรือไม่ เช่น ผ้านวม เป็นผ้าที่หนาและมีขนาดใหญ่เกินขนาดถัง หากต้องการซักควรเป็นผ้านวมผืนเล็กหรือผ้าห่มบาง ๆ
ประเภทของเครื่องซักผ้า
เพราะเครื่องซักผ้าทั้ง 3 ประเภทนั้นต่างกัน หากชอบใช้งานแบบเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ ไม่เปลืองแรงซัก เหมาะสำหรับเครื่องฝาหน้าและเครื่องฝาบน แต่หากถนัดซักแบบแมนนวลหรือซักกึ่งอัตโนมัติเหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าแบบ 2 ถังมากกว่า เพราะหลายคนก็ถนัดใช้งานแบบ 2 ถังมากกว่า
ข้อควรระวังและเรื่องน่ารู้ในการใช้เครื่องซักผ้า
ควรเดินสายดิน
เพราะเครื่องซักผ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้น้ำและไฟจึงควรเดินสายดินเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ไม่ใช้งานขณะที่ตัวเปียกหรือมือเปียก
ในขณะที่ตัวเปียกน้ำหรือมือเปียกไม่ควรเสียบปลั๊กใช้งานเครื่องซักผ้า หรือสัมผัสเครื่องซักผ้าระหว่างที่เครื่องทำงาน เพราะอาจทำให้ไฟดูดหรือเกิดอันตรายได้
เลือกโปรแกรมซักที่เหมาะกับชนิดของผ้า
เครื่องซักผ้าแอลจี มีให้เลือกหลายโปรแกรมซัก ก่อนการซักจึงควรเลือกโปรแกรมที่เหมาะกับชนิดของผ้า เพื่อให้โปแกรมคำนวณปริมาณน้ำและเวลาในการซักได้ถูกต้อง
เลือกชนิดของผงซักฟอกที่เหมาะกับการใช้งาน
ผงซักฟอกแบ่งออกเป็น 2 ชนิดได้แก่ ผงซักฟอกสำหรับซักเครื่องและผงซักฟอกสำหรับซักมือ โดยความเข้มข้นจะต่างกัน นอกจากนี้ยังมีน้ำยาซักผ้าที่นิยมใช้สำหรับซักเครื่องด้วย เพราะละลายน้ำง่ายและไม่ทำให้เป็นคราบ
ไม่นำวัสดุอื่น ๆ มาซักในเครื่องซักผ้า
เช่น รองเท้า กระเป๋า ตุ๊กตา ฯลฯ เพราะมีโอกาสสูงที่จะทำให้เครื่องซักผ้าพังได้ เนื่องจากมีน้ำหนักมากและมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ในบางชนิด อีกทั้งยังมีเครื่องประดับด้วย
หมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ
หลังการใช้งานทุกครั้งควรถอดถาดใส่ผงซักฟอกออกไปล้างทำความสะอาดคราบต่าง ๆ รวมถึงถุงกรองเศษฝุ่นที่ควรนำออกไปทำความสะอาดเพื่อไม่ให้สิ่งตกค้างในเครื่องซักผ้า และควรล้างเครื่องซักผ้าอยู่เสมอตามคำแนะนำของคู่มือในแต่ละรุ่น