ก ลู ต้า กิน กี่เดือน เว้น กี่เดือน

แบ่งปันเกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพทั้งโรคภัยไข้เจ็บ วิธีออกกำลังกาย เคล็ดลับลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อยู่กินของอร่อยไปได้อีกนาน ๆ

ใครๆ ก็อยากสวย อยากแข็งแรง นอกจากอาหารที่ทานกันอยู่ทุกวัน เลยอยากได้ตัวช่วยที่จะเห็นผลดี เห็นผลเร็ว เมื่ออาหารที่ทานอยู่ทุกวันไม่เห็นผลชัดเจน หลายคนจึงหันไปพึ่งอาหารเสริมที่โฆษณาว่า ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เราต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสวยๆ งามๆ ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ลดไขมัน เรื่องผิวพรรณของคุณผู้หญิง ไปจนถึงสุขภาพร่างกายทั้งสมอง หัวใจ ระบบประสาท ระบบโลหิต ระบบย่อยอาหาร รวมไปถึงระบบขับถ่าย และรักษาโรคบางโรค เช่น มะเร็ง

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่ว่าอาหารเสริมทุกชนิดบนโลกจะไม่ดี ไม่ใช่อย่างนั้นเลยค่ะ อาหารเสริมดีๆ จากผู้ผลิตระดับโลกก็มีเช่นเดียวกัน แต่ก็ต้องยอมรับด้วยว่าบางชนิดก็ไม่ได้ผลิตตรงตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ผลงานวิจัยที่นำมาอ้างอิงก็ยังไม่ชัดเจน และมีความเป็นไปได้สูงที่คนที่ซื้อทานยังไม่ทราบวิธีทานอาหารเสริมที่ถูกต้อง

 

อันตรายจากอาหารเสริม

  1. ไอคิวต่ำลง เนื่องจากอาหารเสริมบางชนิดแนะนำให้ทานแทนอาหารหลัก ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย และพัฒนาการสมอง ในวัยที่ต้องใช้สมองในการร่ำเรียน และทำงาน หากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้สมองมีพัฒนาการที่แย่ลงได้

  2. อาหารเสริม ไม่ว่าจะโฆษณาว่าทำมาจากธรรมชาติ 100% ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีสารเคมีปะปนระหว่างการผลิต ดังนั้นการที่เราทานอาหารเสริมติดต่อกันนานๆ อาจมีความเป็นไปได้ว่าเรารับเอาสารเคมีเข้าสู่ร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานานเช่นกัน ซึ่งทำให้ตับทำงานหนักขึ้น เพื่อกรอง และคัดเลือกเอาสารอาหารที่จำเป็น และเกินความจำเป็นออก การทานอาหารเสริมมากเกินไปทำให้ตับทำงานหนักมากเกินไป จนอาจมีความเสี่ยงที่ตับและไตจะเสื่อม อักเสบ จนติดเชื้อในภายหลังได้

  3. การทานอาหารเสริมจากแหล่งผลิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน และ/หรือผลิตจากงานวิจัยที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจน เราอาจกำลังเป็นหนูทดลองให้เขาอยู่ก็เป็นได้ เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย ผู้ผลิตเหล่านี้อาจไม่สามารถช่วยเหลือ หรือรับผิดชอบอะไรเราได้เลย

 

ดังนั้นเรามาดูวิธีการทานอาหารเสริม เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้รางกายได้รับอันตรายกันดีกว่าค่ะ
 

  1. ทานอาหารเสริมตามคำแนะนำที่ฉลากข้างผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด

อาหารเสริมแต่ละชนิดมีวิธีการทานไม่เหมือนกัน วิตามินรวมอาจต้องทานตอนเช้าครั้งเดียว แต่อาหารเสริมบางประเภทต้องทานวันละ 2-3 ครั้ง ดังนั้นควรอ่านฉลากอย่างละเอียดก่อนทานเสมอ

 

  1. ความต่อเนื่องในการทานอาหารเสริมก็สำคัญ

เราอาจเคยได้ยินว่าควรทานอาหารเสริม หรือวิตามินเดือนเว้นเดือน หรือ 3 เดือน เว้น 3 เดือน เพื่อไม่ให้ตับพัง อันที่จริงแล้วจะบอกว่าไม่ผิดแต่ก็ไม่ถูก เพราะอาหารเสริม หรือวิตามินบางชนิดสามารถทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจนได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการทานอาหารเสริมเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง หากรับประทานจนเห็นผลเป็นที่พอใจแล้ว สามารถหยุดการทานได้เช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางชนิดมากจนเกินไป ดังนั้นก่อนทานอาหารเสริมควรสอบถามเภสัชกรให้ละเอียดก่อนทาน

 

  1. ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมหลายตัวในคราวเดียวกัน

หากเราอยากบำรุงผิวพรรณ สามารถเลือกทานวิตามินอี หรือน้ำมันอีฟนิ่ง พริมโรส ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวพรรณใกล้เคียงกัน โดยไม่ต้องทาน 2 ตัวนี้พร้อมกัน ป้องกันการทานวิตามินซ้ำซ้อน หรือมากเกินไปโดยไม่มีความจำเป็น

 

  1. คอลลาเจน กลูต้า ยังไม่มีงานวิจัยรับรองชัดเจน

วิตามินอื่นๆ อาจมีรายงานชัดเจนว่าช่วยในเรื่องของอะไรได้บ้างอย่างชัดเจน แต่สำหรับคอลลาเจน และกลูต้าในรูปแบบของอาหารเสริม ที่ยังไม่มีผลงานวิจัยที่สามารถยืนยันถึงคุณสมบัติ และความปลอดภัยต่อร่างกายอย่างแท้จริงนั้น สามารถบอกได้ว่าผลลัพธ์ และความเสี่ยง อยู่ที่ตัวผู้บริโภคเองล้วนๆ

 

  1. สำรวจความจำเป็นก่อนทาน

อาหารเสริม ก็คืออาหารเสริม หมายถึงร่างกายขาดเราถึงต้องเสริม หากร่างกายของเราไม่ได้ขาดสารอาหารอย่างชัดเจนจนถึงขั้นต้องหามาทานเสริม ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปซื้อมาทาน หากคุณไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทานอาหารไม่ค่อยมีประโยชน์ พักผ่อนน้อย หรือมีปัญหาใดปัญหาหนึ่งกับร่างกายจริงๆ อาจปรึกษาแพทย์เพื่อมองหาอาหารเสริมที่เหมาะสมกับร่างกายของเราจริงๆ ได้ การปรึกษาแพทย์ก่อนซื้ออาหารเสริมมาทาน นอกจากจะสามารถช่วยหาอาหารเสริมที่เหมาะกับร่างกายของเราจริงๆ แล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และลดภาวะการรับสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไปได้ด้วย

 

อาหารเสริมไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกายจนทำให้ตับไตวาย หากเราทานอย่างมีความรู้ ศึกษาหาข้อมูลเยอะๆ หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทาน ดังนั้นควรเลือกทานอาหารเสริมกันอย่างมีสตินะคะ

โหลดเพิ่ม

ขอขอบคุณ

ภาพ :iStock

แท็กที่เกี่ยวข้อง

อาหารเสริมวิตามินตับอักเสบไตวายคอลลาเจนกลูต้ากลูต้าไธโอนวิธีใช้ยาสุขภาพกายรู้ทันโรคดูแลสุขภาพสุขภาพรู้เรื่องยา

ฉีดวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล? ทำไมฉีดแล้วผิวถึงกลับไปคล้ำเสียเหมือนเดิม? ปัจจุบันการบำรุงผิวด้วยการฉีดวิตามินผิวใสได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเป็นวิธีที่ทำให้ผิวขาว ดูมีสุขภาพดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ปลอดภัยและเห็นผลไวกว่าการทาครีมบำรุงครับ

แต่บางรายก็อาจจะผิดหวังจากการฉีดวิตามินผิวใส เพราะฉีดแล้วไม่เห็นผลเท่าที่ควร ทำให้เสียเงิน เสียเวลาไปฟรีๆ หรือฉีดแล้วผิวก็กลับไปคล้ำเสียเหมือนเดิม ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบครับว่าฉีดวิตามินผิวขาวกี่ครั้งเห็นผล? ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน? พร้อมทั้งบอกวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดวิตามินผิวเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

บทความแนะนำ

ฉีดวิตามินผิวใสคืออะไร อันตรายไหม?

สารบัญ ฉีดวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล

  • ฉีดวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล?
  • ฉีดวิตามินผิวอยู่ได้นานแค่ไหน?
  • หยุดฉีดวิตามินผิว แล้วผิวจะกลับมาคล้ำหรือไม่?
  • หลังฉีดวิตามินผิวใส ควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน?

ฉีดวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล?

ระยะเวลาเห็นผลอยู่ที่ประมาณ 4 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และความถี่ในการฉีดครับ หากคนไข้อยากให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หมอแนะนำว่าในช่วงเดือนแรกควรฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเมื่อผิวเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นแล้วก็สามารถฉีด 2-3 ครั้งต่อเดือนได้ครับ

ฉีดวิตามินผิว อยู่ได้นานแค่ไหน?

หลังฉีดวิตามินผิวผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือนครับ ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การฉีดวิตามินผิวใสก็คือการบำรุงผิวรูปแบบหนึ่ง ยิ่งเราบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการดูแลตัวเอง และไม่ทำพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว เช่น การตากแดดจัด พักผ่อนไม่เพียงพอ ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ หากคนไข้เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานขึ้นครับ

หยุดฉีดวิตามินผิว แล้วผิวจะกลับมาคล้ำหรือไม่?

การหยุดฉีดวิตามินผิว ไม่ได้ทำให้ผิวกลับมาคล้ำขึ้นครับ เนื่องจากการฉีดวิตามินผิว เป็นการบำรุงผิวจากภายใน โดยการนำVit C, Vit B, NAC, Amino, Antioxidant หรือ Collagen ที่ล้วนเป็นสารที่ให้ประโยชน์กับผิวของเรามาฉีดเข้าเส้นเลือด โดยไม่ทำให้ผิวบาง หรือเป็นอันตรายต่อผิว ทำให้สามารถฉีดได้เรื่อยๆ ครับ

ด้วยคุณสมบัติของสารบำรุงที่อยู่ในการฉีดวิตามินผิว สามารถช่วยสร้างคอลลาเจนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปกป้องผิวทำให้เซลล์แข็งแรง เมื่อเซลล์แข็งแรง ผิวก็จะมีคุณภาพดีขึ้นจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล จึงถือได้ว่าการฉีดวิตามินผิวช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นโดยอาศัยกลไกทางอ้อมครับ

โปรแกรม เมโสหน้าใส มาเด้คอลลาเจน

Mobile

หลังฉีดวิตามินผิวใส ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน?

เนื่องจากการฉีดวิตามินผิวใส ไม่สามารถให้ผลลัพธ์แบบถาวร เพราะตัวยาจะเป็นอาหารผิวจำพวกวิตามิน จึงสามารถสลายหมดโดยไม่มีสิ่งตกค้าง แต่หากคนไข้ต้องการให้เห็นผลลัพธ์ที่นานขึ้น ก็สามารถปฏิบัติดังนี้

การทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากแสง UV ที่เป็นตัวการทำร้ายผิวได้

  • พยายามเลี่ยงแสงแดด หากจำเป็นต้องออกแดดบ่อยๆ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป
  • เลี่ยงการนวดผิวบริเวณที่ทำทันที ไม่ควรเช็ดถูหรือเกาบริเวณที่ฉีด
  • หากเกิดรอยแดง ช้ำ จากรอยเข็มบริเวณที่ฉีด สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • ควรดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากๆ เพราะจะช่วยบำรุงผิวใสจากภายใน ดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย
  • หากอาการบวมแดงเกิดขึ้นมากกว่า 1-2 วัน ควรติดต่อแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยเบื้องต้นและรักษาตามอาการ
  • งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะสารเคมีต่างๆ จะทำให้วิตามินที่ฉีดทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวคล้ำเสีย และหมองคล้ำ มีริ้วรอยมากยิ่งขึ้น

สรุป

การฉีดวิตามินผิว คือการบำรุงผิวรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นสำหรับคำถามที่ว่าฉีดวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล หมอแนะนำว่าในช่วงเดือนแรกควรฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หลังจากนั้นฉีด 2-3 ครั้งต่อเดือน และควรฉีดอย่างสม่ำเสมอจะดีที่สุดครับ ที่สำคัญคือก่อนตัดสินใจฉีดวิตามินผิวควรศึกษาข้อมูลความเสี่ยงให้ดี และเลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ของแท้เท่านั้น ก็จะช่วยให้เรามั่นใจในความปลอดภัยได้ครับ

กินกลูต้าควรเว้นกี่เดือน

เราเริ่มกินกลูต้ากะวิตามินซีของวิสต้าตอนนั้นกินมาเดือนนึงแล้วหยุด คือมันขาวขึ้นใสขึ้น แนะนำให้กินสามเดือนละพักนะ แล้วก็ควรค่อนๆลดปริมาณยานะ ชีวิต ที่ ดีกว่า

กลูต้ากินกี่เม็ด

กินกลูต้าให้ตามน้ำหนักตัว เพราะกินกลูต้า ของแต่ละคนจะแตกต่างกันตามน้ำหนักตัว วิธีคิด 40 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น หนัก 60 กิโลกรัม ควรได้รับกลูต้าไธโอนปริมาณไม่เกิน 2400 มิลลิกรัม หรือประมาณ 2 เม็ดต่อวัน

กินกลูต้าได้ผลจริงไหม

ไม่ควรทานคอลลาเจนหรือกลูต้าเพื่อหวังผลให้ผิวขาว เพราะแทบไม่เห็นผล ส่วนใหญ่เป็นการโฆษณาเกินจริงที่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่มากเพียงพอ ถ้ามีความสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทานเพื่อช่วยทดแทนสารอาหารที่ขาดไปทีละน้อย แต่การทานปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพแทน

กลูต้าดาราทานตอนไหน

กินกลูต้าเวลาท้องว่าง เช่น ช่วงเวลาก่อนนอน หรือ ตอนตื่นนอน เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมกลูต้าเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่ กินกลูต้าคู่กับวิตามินซี ใครอยากให้ร่างกายดูดซับกลูต้าได้ดี ขาวไวยิ่งขึ้น ก็ควรกินร่วมกันกับวิตามินซี หรือถ้าอยากให้ผิวขาว กระชับก็อาจเลือกกินกลูต้าคอลลาเจนก็ได้

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก