ใบรับรองแพทย์ออนไลน์ เป็นบริการจากกระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงแรงงาน และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยสถานพยาบาลที่เข้าร่วมการออกใบรับรองแพทย์ออนไลน์ จะต้องลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม
ใบรับรองแพทย์ผ่านหมอพร้อมไม่ได้มีเพียงการรับรองการติดเชื้อโควิดเท่านั้น ปัจจุบันยังครอบคลุมการนำไปใช้หลายด้าน อาทิ
1. ตรวจสุขภาพทั่วไป
2. ขอใบขับขี่ (ขอใบอนุญาตขับรถ)
3. ยืนยันการติดเชื้อโควิด-19
4. ตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว
5. อื่นๆ เช่น บริการที่รองรับในอนาคต
การพิมพ์ใบรับรองแพทย์ออนไลน์ หมอพร้อม มีวิธีดังนี้
- เข้าแอปหมอพร้อม
- ไปที่เมนูใบรับรอง (หากไม่มีเมนูให้อัปเดตแอปก่อน)
- ไปที่เมนูใบรับรองแพทย์ดิจิทัล
- เลือกรายการตรวจรักษาของท่าน
- กดดาวน์โหลด PDF
ใบรับรองแพทย์โควิด ATK มีวิธีขออย่างไร
ใบรับรองแพทย์โควิด ATK เป็นสิ่งที่ผู้ป่วยต้องนำไปใช้เบิกประกัน หรือเบิกค่ารักษา ค่าชดเชยหยุดงานจากประกันสังคม ม.33 และ ม.39 โดยมีแพทย์ยืนยันการรักษาตัวแบบ Home Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI) โดยมีวิธีการขอดังนี้
- ผู้ป่วยที่ตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด ต้องรีบเข้าสู่กระบวนการรักษาตามสิทธิ สปสช. เพื่อเข้ารับกระบวนการรักษา หรือ
- เข้าสู่กระบวนการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน สถานที่รองรับการรักษาภายใต้การจัดการของสถานพยาบาล
- ขอใบรับรองแพทย์ โดยแพทย์สรุปความเห็น ต้องเป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ
ในรายละเอียดของใบรับรองแพทย์ จะประกอบด้วยข้อมูลของผู้ป่วย ว่าได้ตรวจ ATK ด้วยตัวเอง หรือตรวจ ณ สถานพยาบาล ว่าได้รับการกักตัวแบบ HI หรือ CI ระหว่างวันที่เท่าไร รวมระยะเวลาทั้งสิ้นกี่วัน ลงชื่อผู้ป่วย
ใบรับรองแพทย์โควิด ATK ที่นำไปใช้เบิกเคลมประกัน หรือใช้อ้างอิงกับหน่วยงานต่างๆ นั้นจะต้องออกภายใต้สถานพยาบาล คลินิก โรงพยาบาลรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชน ที่สามารถตรวจสอบต้นขั้วได้ย้อนหลังอย่างน้อย 5 ปี กรณีที่เด็ก ผู้เยาว์ และผู้เสมือนไร้ความสามารถติดเชื้อ ผู้ลงนามคือผู้ปกครองที่สามารถลงนามรับรองแทนได้ เพราะการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ จะได้รับโทษตามกฎหมาย
ใบรับรองแพทย์โควิด เบิกประกันสังคมได้อย่างไร
ใบรับรองแพทย์โควิด เบิกประกันสังคมได้เฉพาะ 1) ค่าบริการทางการแพทย์ และ 2) ค่าทดแทนการขาดรายได้ ม.33, ม.39 และ ม.40 ดังนี้
ค่ารักษาของผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39
ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 จะได้รับการช่วยเหลือครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทางการแพทย์ประเภทผู้ป่วยใน ดังนี้
- ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- ค่าดูแลการให้บริการผู้ประกันตน (ค่าอาหาร 3 มื้อ การติดตามอาการ และการให้คำปรึกษา)
- ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด และอุปกรณ์อื่นๆ
- ค่ายาที่ใช้รักษา
- ค่าพาหนะเพื่อรับ หรือส่งต่อผู้ป่วยระหว่างที่พัก โรงพยาบาลสนาม และสถานพยาบาล
- ค่าบริการ X-ray
- ค่า oxygen ตามดุลยพินิจของแพทย์
โดย สปส.จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับทางโรงพยาบาลตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขฯ
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33
- กรณีลาป่วย 30 วันแรก จะได้รับค่าจ้างจากนายจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
- กรณีจำเป็นต้องหยุดพักรักษาตัวนานเกินกว่า 30 วัน สามารถเบิกสิทธิประโยชน์กรณีขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วย โดยรับเงินทดแทนร้อยละ 50 ของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ตามใบรับรองแพทย์ ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน หากป่วยเรื้อรังได้รับไม่เกิน 365 วัน
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39
- ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 โดยคำนวณจากฐานค่าจ้างอยู่ที่จำนวน 4,800 บาท ตามใบรับรองแพทย์ ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคเรื้อรัง จะสามารถได้เงินทดแทนไม่เกิน 365 วัน
- ต้องมีการส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนวันเข้ารับการบริการทางการแพทย์
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40
ได้รับเงินทดแทนตามทางเลือก ดังนี้
1. เงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 300 บาท กรณีรับการรักษาประเภทผู้ป่วยในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel ตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป แต่ไม่เกิน 30 วัน/ปี (สำหรับทางเลือกที่ 1 และ 2) และไม่เกิน 90 วัน/ปี (สำหรับทางเลือกที่ 3)
2. เงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 200 บาท กรณีแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวที่บ้านตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป แต่ไม่เกิน 30 วัน/ปี (สำหรับทางเลือกที่ 1 และ 2) และไม่เกิน 90 วัน/ปี (สำหรับทางเลือกที่ 3)
3. เงินทดแทนการขาดรายได้ครั้งละ 50 บาท ไม่เกิน 3 ครั้ง/ปี กรณีไม่ได้เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน หรือไม่ได้กักตัว มีใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อสำนักงาน (เฉพาะทางเลือกที่ 1 และ 2 เท่านั้น สำหรับทางเลือกที่ 3 ไม่คุ้มครอง)
กรณีที่ติดเชื้อโควิด ตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษาตัวตามระบบของ สปสช. ก็จะไม่สามารถเบิกเคลมประกัน ขอใบรับรองแพทย์ไม่ได้ และนายจ้างมีสิทธิขอตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำเพื่อขอใบรับรองแพทย์ยืนยันกับที่ทำงาน เพื่อใช้สิทธิหยุดงาน และสิทธิอื่นๆ
การขอใบรับรองแพทย์ COVID19
!! สำคัญและโปรดอ่านทำความเข้าใจ !!
- ตั้งแต่ 1 กรกฎคม 2565 ทางคลินิกจะให้ปิดบริการตรวจ COVID-19 ก่อนการเดินทางในวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- ท่านสามารถมาตรวจโดยไม่ได้นัดหมายได้ (Walk-in) แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความสะดวกรวดเร็ว แนะนำให้ทำนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ LINK นี้
- หลังจากตรวจแล้ว ถ้าผลการตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ COVID-19 (Positive) แปลว่า ท่านจะไม่สามารถเดินทางตามกำหนดการเดิมของท่านได้
- หากพบว่ามีการติดเชื้อ COVID-19 (positive) ท่านจะต้องเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาตามนโยบายของโรงพยาบาล และแนวทางการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข
- กรณีที่ท่านตรวจด้วยวิธี rapid antigen test หากพบว่ามีการติดเชื้อ (positive) ท่านอาจจะต้องได้รับการตรวจยืนยันด้วยวิธี real time RT-PCR ด้วย โดยท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
- กรณีที่ท่านมีอาการไข้ รวมถึงอาการสงสัยการติดเชื้อโควิด-19 หรือมีประวัติเสี่ยง ท่านจะไม่สามารถเข้ารับการตรวจที่คลินิกนักท่องเที่ยวฯ ได้
หมายเหตุ
- ข้อมูลในหน้านี้ใช้สำหรับผู้ที่สบายดี แต่มาขอตรวจ COVID19 เพื่อใช้ในการเดินทาง หรือก่อนการทำหัตถการเท่านั้น
- ถ้าท่านมีอาการไม่สบาย หรือได้ใกล้ชิดกับคนที่เป็น COVID19 หรือสงสัยว่าติดเชื้อ COVID ท่านสามารถเข้ารับการตรวจที่คลินิกไข้/คลินิก ARI ดูรายละเอียดได้ที่ Link นี้ //www.tropmedhospital.com/covid19/request-testing.html
- ในวันที่ท่านมาโรงพยาบาล ท่านจะถูกคัดกรองที่ประตูทางเข้าของโรงพยาบาล ถ้าท่านมีไข้หรือมีอาการของ COVID19 หรือเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ท่านจะถูกแนะนำให้ไปตรวจที่ fever/ARI clinic ท่านจะไม่สามารถใช้บริการของ Travel clinic ได้
คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง ให้บริการโดยแพทย์ แพทย์ประจำบ้าน และอาจารย์แพทย์ นักท่องเที่ยวแต่ละคนอาจจะได้รับคำแนะนำหรือการตรวจรักษาที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากปัจจัยต่างๆมากมาย รวมถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคล สภาพแวดล้อม ภาวะการณ์ รวมถึงวิจารณญานของแพทย์แต่ละท่าน ซึ่งทุกอย่างจะดำเนินไปตามมาตรฐานทางการแพทย์