ขั้นตอนทำใบขับขี่ใหม่ สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถมาก่อนมีวิธีการอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง สามารถอบรมออนไลน์ได้ไหม ต้องจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน หรือไปที่กรมการขนส่งทางบกได้เลย เราหาคำตอบมาให้แล้ว
สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ ทุกคนก่อนที่จะนำรถออกมาใช้งานบนท้องถนน สิ่งหนึ่งที่ต้องมีและเตรียมให้พร้อมก็คือ ใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตขับรถ ที่เปรียบเสมือนเอกสารสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกออกให้กับบุคคลนั้น เพื่อแสดงว่ามีคุณสมบัติสามารถขับขี่รถสัญจรบนท้องถนนได้
โดย ใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตขับรถ มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีหลักเกณฑ์การใช้ อายุการใช้งาน รวมถึงเวลาต่อใบขับขี่แตกต่างกันด้วย
ใบอนุญาตขับขี่มีกี่ประเภท
หากแบ่งตามประเภทของใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ประเภท ส่วนบุคคล (บ.) คือ ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล จะใช้สำหรับรถในการขนส่งส่วนบุคคล รถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวเลข และตัวอักษรสีดำ
ประเภท ทุกประเภท (ท.) คือ ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภททุกประเภท จะใช้สำหรับรถสาธารณะ รถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง ซึ่งใบอนุญาตขับรถประเภททุกประเภทนั้น สามารถใช้ทดแทนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล และใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ได้
ใบขับขี่มีกี่ชนิด อะไรบ้าง ?
ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถ หากแบ่งออกตามลักษณะการใช้งาน จะมีถึง 11 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว
ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ
ใบอนุญาตขับรถบดถนน
ใบอนุญาตขับรถแทรกเตอร์
ใบอนุญาตขับรถชนิดอื่น
ใบอนุญาตขับรถตามความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี หรือใบขับขี่สากล
ทั้งนี้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและหลักเกณฑ์การใช้งานแต่ละประเภทได้ที่ : ข้อมูลเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ประเภทต่าง ๆ
ทำใบขับขี่ใหม่ 2565 มีวิธีการและขั้นตอนอย่างไร
1. จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์
ผู้ที่จะเข้ารับบริการทำใบขับขี่ใหม่ ต่ออายุใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถทุกชนิด ต้องทำการจองคิวล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือทำการจองทางเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบก พร้อมกับบันทึกหน้าจอการจองคิวเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้แสดงกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานขนส่งในวันที่มารับบริการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
2. เตรียมเอกสารที่ต้องใช้
บัตรประชาชนตัวจริง
ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
3. ทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง)
ทดสอบสายตาทางลึก
ทดสอบสายตาทางกว้าง
ทดสอบปฏิกิริยาโดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
4. เข้ารับการอบรม
ผู้ที่ทำใบขับขี่ใหม่ หรือยังไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อน จะไม่สามารถเข้ารับการอบรมผ่านทางออนไลน์ได้ ต้องเข้ารับการอบรมที่สำนักงานเท่านั้น โดยจะใช้เวลาในการอบรมทั้งหมด 5 ชั่วโมง แบ่งออกเป็นช่วงเช้าและช่วงบ่าย
5. ทำการสอบข้อเขียน
ทำการทดสอบข้อเขียนผ่านระบบ E-exam จำนวน 50 ข้อ โดยต้องตอบให้ถูกอย่างน้อย 45 ข้อ หากไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องมาสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วัน หลังอบรม
6. ทำการสอบปฏิบัติ หรือทดสอบขับรถ
การสอบปฏิบัติหรือทดสอบขับรถนั้นส่วนใหญ่จะดำเนินการในวันถัดไป โดยสามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้ามาทำการทดสอบขับรถที่สำนักงานขนส่งได้ สำหรับการทดสอบขับรถจะมีทั้งหมด 3 ท่าด้วยกัน ได้แก่
การจอดรถเทียบทางเท้า
การถอยรถเข้าซอง
การขับเดินหน้าและถอยหลัง
7. ถ่ายรูปทำใบขับขี่ และชำระเงิน
ในขั้นตอนนี้จะมีค่าบริการทำใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 200 บาท และค่าคำขอ 5 บาท
ทั้งนี้ ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว จะมีอายุเพียง 2 ปีเท่านั้น เมื่อใช้งานไประยะเวลาหนึ่งสามารถดำเนินการต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็นแบบ 5 ปี โดยสามารถดำเนินการต่อล่วงหน้า 90 วัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก
ในยุคปัจจุบันมีการเดินทางหลากหลายรูปแบบเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนทั่วไปไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ รถไฟฟ้า หรือรถยนต์ส่วนบุคคล
ซึ่งในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนหันมาเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลมากขึ้น เพราะมีความสะดวกเป็นส่วนตัว สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างที่ต้องการ นอกจากนี้ราคารถยนต์ในท้องตลาดยังมีตัวเลือกหลากหลายให้เลือกซื้อกันอีกด้วย
และสำหรับคนมีรถยนต์ไม่เพียงแค่คุณมีรถยนต์และขับรถเป็นก็จะสามารถขับขี่รถยนต์ได้ คุณต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบก เอกสารสำคัญที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนต้องมี
ซึ่งใบขับขี่จะมีการกำหนดอายุในการใช้งานโดยเริ่มต้นที่ 2 ปี สำหรับผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ใหม่แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หรือเตรียมเอกสารอะไรไปบ้างนั้น วันนี้ Promotions.co.th ของเรารวบรวมข้อมูลฉบับอัปเดตมาฝากกัน จากสถานการรณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กรมการขนส่งทางบกได้มีการชะลอการทำใบขับขี่ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อส่งผลให้ประชาชนต้องทำการจองคิวก่อนเมื่อถึงกำหนดจึงสามารถเดินทางไปทำใบขับขี่ได้ตามวันและเวลาที่ระบุ โดยสามารถจองคิวทำใบขับขี่ได้ผ่าน แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue **การอบรมเพื่อทำใบขับขี่สำหรับผู้ที่ทำครั้งแรก ต้องไปอบรมที่สำนักงานเท่านั้น ไม่สามารถอบรมออนไลน์ได้ และข้อสอบมีจำนวน 50 ข้อ ต้องตอบให้ถูกอย่างน้อย 90% หรือ 45 ข้อ หากไม่ผ่านสามารถเข้าสอบใหม่ได้ในวันถัดไป สำหรับค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่ใหม่ สำหรับค่าธรรมเนียมใบขับขี่จาก 2 ปี (ชั่วคราว) เป็น 5 ปีขั้นตอนการจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์
ขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่
ค่าธรรมเนียมทำใบขับขี่รถยนต์
- มีอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับรถยนต์ 505 บาท
สำหรับค่าธรรมเนียมใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี
- มีอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับรถยนต์ 505 บาท
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการขอใบขับขี่
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน
สำหรับใครที่ต้องการทำใบขับขี่ใหม่นั้นก็สามารถทำตามขั้นตอนการขอทำใบขับขี่ที่โปรโมชั่นส์ของเรารวมรวมมาฝากกันแบบละเอียดยิบ ทั้งในส่วนของเอกสารที่ต้องใช้ อัตราค่าธรรมเนียม วิธีการจองคิว รวมไปถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณที่เกี่ยวข้องกับให้การทำใบขับขี่รถยนต์ครั้งให้ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป โดยสิ่งที่สำคัญคือใบรับรองแพทย์ตามประกาศกฎกระทรวงคมนาคม เรื่องการขอและการออกใบอนุญาตขับรถและการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ.2563 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลใช้บังคับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมาโดยผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่และขอต่ออายุใบขับขี่รถทุกชนิดต้องมีใบรับรองแพทย์ยื่นประกอบการดำเนินการ
ที่มา : thansettakij
READ MORE :
- มือใหม่ต้องรู้ อบรมใบขับขี่ออนไลน์ครั้งแรก มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
- ยืดเวลาผ่อนผันใบขับขี่หมดอายุช่วงโควิด ใช้ได้ถึง 30 ก.ย. นี้
- รู้ไว้ ! ใบขับขี่หมดอายุ ช่วงโควิด-19 ไม่ต้องสอบข้อเขียน ไม่ต้องสอบขับรถ
- ต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ 2565 ใช้เอกสารอะไรบ้าง