MoneyGuru ยุติการประกอบกิจการแล้ว
โปรดทราบว่ากลุ่ม Hyphen Group ภายใต้แบรนด์ ‘MoneyGuru’ ได้ถอนตัวออกจากตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยมีผลทันที
ของขวัญแคมเปญ (รางวัล) และสิ่งจูงใจต่าง ๆ สำหรับคำขอที่สมบูรณ์ทุกฉบับของลูกค้าจนกระทั่งถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565
จะยังคงมีผลใช้บังคับได้
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ โปรดติดต่อ
คำถามที่พบบ่อย:
กลุ่ม Hyphen Group ภายใต้แบรนด์ ‘MoneyGuru’ จะถอนตัวจากตลาดในประเทศไทย โดยมีผลในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 กิจกรรมทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับแบรนด์www.moneyguru.co.th จะสิ้นสุดลง
สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความท้าทาย ทำให้เรา (Hyphen Group) จัดลำดับความสำคัญของกลยุทธ์ระดับกลุ่มและการใช้เงินทุนใหม่ การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้เรามีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถมุ่งเน้นไปที่โอกาสที่สำคัญในการเติบโต โดยเราจะสามารถให้บริการลูกค้า และผู้ให้บริการของเราได้ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พนักงานทุกคนของแบรนด์ MoneyGuru จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากสำนักงานจะปิดตัวลงโดยมีผลทันที ทีมงานขนาดเล็กจะยังคงให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการบริการลูกค้า การสอบถามข้อมูลของผู้ให้บริการ และงานธุรการ
ลูกค้าที่ยื่นคำขอรับของขวัญแคมเปญ (รางวัล) และสิ่งจูงใจต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นออนไลน์ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 จะยังคงได้รับของขวัญแคมเปญ ลูกค้าสามารถส่งคำถามหรือข้อกังวลมาที่
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม Hyphen Group ได้ประกาศว่าได้ทำธุรกรรมการลงทุนใหม่แล้วเสร็จเป็นครั้งแรก การลงทุนใหม่พร้อมทั้งความแข็งแกร่งของบุคลากรของเราจะช่วยให้เราใช้ทรัพยากรโดยมุ่งเน้นที่ตลาดสำคัญที่เหลืออยู่ พร้อมกับสำรวจโอกาสอื่นในภูมิภาคตามที่เหมาะสม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริการลูกค้า โปรดติดต่อ
สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับสื่อต่างๆ โปรดติดต่อ
สำหรับผู้ที่มีรถยนต์การต่อภาษีรถยนต์หรือที่มักเรียกว่าต่อทะเบียนรถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เทียบเท่ากับการทำพ.ร.บ. รถยนต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีผลทางกฎหมายที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเจ้าของรถทุกคันต้องนำรถไปต่อทะเบียนทุกปีและห้ามลืมเด็ดขาด โดยการต่อภาษีรถยนต์นี้มีค่าใช้จ่ายที่อยู่ในหลักพันบาท ซึ่งมีการคำนวณคิดหาราคาตามแต่ประเภทรถที่แตกต่างกันไป หลาย ๆ ท่านอาจไม่รู้ว่าการ ต่อภาษีรถยนต์ ราคา 2565 เท่าไหร่ และเมื่อเปรียบเทียบกับการต่อภาษีรถยนต์ 2563 ราคามีการปรับปรุงไหม มีการคิดค่าใช้จ่ายอย่างไร วันนี้เราจะมานำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน
การคิดภาษีมีการแบ่งรถยนต์ออกมาเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. ต่อภาษีรถ 2565 ประเภทรถกระบะ 4 ประตู, รถเก๋ง
รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือดำมีการคิดค่าภาษีตามช่วงของขนาดเครื่องยนต์
รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือดำ เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง มีการคำนวณภาษีรถขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องยนต์ โดยแจกแจกออกมาดังนี้
1-600 c.c. | 50 สตางค์ |
601-1800 c.c. | 1.50 บาท |
1801 c.c. ขึ้นไป | 4 บาท |
รถเก๋งและกระบะ 4 ประตูที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จะได้รับการลดหย่อยภาษีลดลงปีละ 10% สูงสุดถึง 50%
และยังมีส่วนลดสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมาหลายปีแล้วโดยนำภาษีที่คำนวณได้มาหักส่วนอีกที
- อายุการรถยนต์เกิน 6 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 10%
- อายุการรถยนต์เกิน 7 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 20%
- อายุการรถยนต์เกิน 8 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 30%
- อายุการรถยนต์เกิน 9 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 40%
- อายุการรถยนต์เกิน 10 ปีขึ้นไป รับส่วนลดค่าภาษี 50%
ตัวอย่างการคำนวณภาษีรถยนต์
ตัวอย่างที่ 1 รถ Honda City ขนาดเครื่องยนต์ 1,497 c.c. อายุรถยนต์ใช้งานมา 7 ปี
รถเก๋ง Honda City ขนาดเครื่องยนต์ 1,497 c.c. อายุการใช้งาน 7 ปี
- สูตรคำนวณช่วงที่ 1 : 600 c.c. x 0.5 เท่ากับ 300 บาท
- สูตรคำนวณช่วงที่ 2 : (1,497-600) = 897 c.c. นำไปคูณ 1.5 เท่ากับ 1,345.5 บาทนำผลลัพธ์ของทั้งสองช่วงมารวมกัน 300+1,345.5 = 1,645.5 บาท
ได้รับส่วนลด 20% เพราะเป็นรถยนต์ที่อายุใช้งานเกิน 7 ปี
- คำนวณส่วนลด : 1,645.5 - 20% = 1,316.4 บาท
ดังนั้นรถยนต์ Honda City คันนี้ต่อภาษีรถยนต์ราคาอยู่อยู่ที่ 1,317 บาท
ตัวอย่างที่ 2 รถกระบะ 4 ประตู Ford Ranger ขนาดเครื่องยนต์ 1,996 cc อายุรถยนต์ใช้งานมา 12 ปี
ราคาต่อภาษีรถยนต์ กระบะ รถ Ford Ranger ขนาดเครื่องยนต์ 1,996 cc อายุการใช้งาน 12 ปี
- สูตรคำนวณช่วงที่ 1 : 600 c.c. x 0.5 เท่ากับ 300 บาท
- สูตรคำนวณช่วงที่ 2 : (1,800-600) = 1,200 c.c. นำไปคูณ 1.5 เท่ากับ 1,800 บาท
- สูตรคำนวณช่วงที่ 3 : (1,996-1,800) = 196 c.c. นำไปคูณ 4 เท่ากับ 784 บาท
นำผลลัพธ์ของทั้งสามช่วงมารวมกัน 300+1,800+784 = 2,884 บาท
ได้รับส่วนลด 50% เพราะเป็นรถยนต์ที่อายุใช้งานเกิน 10 ปีขึ้นไป
- คำนวณส่วนลด : 2,884-50% = 1,442 บาท
ดังนั้นรถกระบะ Ford Ranger คันนี้ ต่อภาษีรถยนต์ ราคาอยู่ที่ 1,442 บาท
>> ต่อภาษีรถยนต์
2. ต่อภาษีรถ 2565 ประเภทรถกระบะ 2 ประตู
รถกระบะ 2 ประตูจ่ายภาษีตามน้ำหนัก
รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือเขียว เป็นประเภทรถบรรทุกส่วนบุคคลที่เกิน 7 ที่นั่ง ด้วยการคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถ โดยมีรายละเอียดแจกแจงออกมาได้ดังนี้
50 - 750 กิโลกรัม | 450 บาท |
751 –1000 กิโลกรัม | 600 บาท |
1001 – 1250 กิโลกรัม | 750 บาท |
1251 – 1500 กิโลกรัม | 900 บาท |
1501 – 1750 กิโลกรัม | 1,050 บาท |
1751 – 2000 กิโลกรัม | 1,350 บาท |
2001 – 2500 กิโลกรัม | 1,650 บาท |
โดยประเภทรถกระบะมีการคิดภาษีแบบคงที่ไม่ส่วนลด โดยสามารถเช็กน้ำหนักของรถได้จากเล่มรถของคุณเอง
3. ต่อภาษีรถ 2565 ต่อภาษีประเภทรถตู้
รถตู้จ่ายค่าภาษีประจำปีคิดตามน้ำหนัก
รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือสีน้ำเงิน เป็นประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง โดยการคำนวณภาษีนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักของรถ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- น้ำหนักรถไม่เกิน 1800 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,300 บาท
- น้ำหนักรถเกิน 1800 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,600 บาท
โดยประเภทรถตู้มีการคิดภาษีแบบคงที่ไม่ส่วนลด โดยสามารถเช็กน้ำหนักของรถได้จากเล่มรถของคุณเอง
4. เอกสาร ต่อทะเบียนรถ
เอกสาร ต่อทะเบียนรถ ใช้อะไรบ้าง
- คู่มือจะทะเบียนรถ หรือ สำเนารถก็ได้
- ส่วนล่างของ พ.ร.บ.
- ใบตรวจสภาพรถ จาก ตรอ. ในกรณีที่รถเข้าเกณฑ์ที่ต้องตรวจ
- ใบตรวจสภาพแก๊ส ในกรณีที่ติดแก๊สแล้วแจ้งลงเล่ม
- ใบถอนอายัด ในกรณีที่มันใจแน่ๆว่ารถโดนอายัดจากใบสั่ง หรือตำรวจ
หากไม่ไปต่อทะเบียนรถจะถูกจับและถูกปรับอย่างไร?
หากขาดการชำระค่าภาษีติดต่อนานเป็นเวลาถึง 3 ปี รถจะถูกระงับส่วนการใช้ทะเบียน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอนเพราะนอกจากจะมีผลทางกฎหมายแล้ว อาจส่งผลให้คุณจ้องเจอปัญหาตามมาอีกมากมายเมื่อต้องนำมาขับซึ่งแน่นอนว่าคุณจะต้องโดนดำเนินคดีและต้องเสียเวลายุ่งยากมากมายในการยื่นเอกสารเพื่อขอต่อภาษีรถที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ซึ่งปัญหาและวิธีแก้ไขสำหรับที่ขาดต่อทะเบียนทำได้ดังนี้
หากขาดต่อทะเบียนรถนานถึง 3 ปีอาจถูกระงับการใช้งานได้
ขาดต่อภาษีรถยนต์ 2 ปี ไม่ถึง 3 ปี
สามารถไปทำเรื่องต่อภาษีรถยนต์ได้ โดยทะเบียนรถยนต์ยังไม่ถูกระงับการใช้งาน มีการคิดราคาและวิธีดำเนินการตามปกติ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนิน โดยมีการคิดอัตราการปรับอยู่ที่ร้อยละ 1 ต่อเดือน
ขาดต่อภาษีรถยนต์ 3 ปี
คงโทษใครไม่ได้เพราะคุณเลือกที่จะทำหน้าที่สำหรับคนที่มีรถควรพึงกระทำ การขาดต่อทะเบียนรถนานเกิน 3 ปี รถของคุณจะอยู่ในสถานะถูกระงับการใช้งาน ไม่สามารถโอนหรือย้ายทะเบียนได้เลย ซึ่งหากต้องการใช้งานรถของคุณอีกครั้งต้องดำเนินการต่อทะเบียนที่ยุ่งยากโดยมีวิธีดังนี้
- จะต้องคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถ พร้อมเล่มทะเบียนรถ มาให้ทางราชการบันทึกการระงับทะเบียนภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่นายทะเบียนระงับการดำเนินการ หากไม่ทำตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ชำระค่าต่อภาษีที่ค้างไว้ที่สำนักงานขนส่งประจำพื้นที่จดทะเบียน โดยคิดอัตราค่าชำระอยู่ที่ร้อยละ 1 ต่อเดือนจนถึงวันชำระ
- ทำเรื่องแจ้งขอใช้รถยนต์อีกครั้งหลังทำการถอดอายัดพร้อมชำระค่าธรรมเนียมและซื้อพรบ.รถยนต์
ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระสำหรับรถที่ขาดต่อภาษีเกิน 3 ปีมีดังนี้
- ค่าจดทะเบียนรถใหม่ 315 บาท
- ค่าเล่มทะเบียนรถใหม่ 100 บาท
- ค่าแผ่นป้ายทะเบียน 100 บาท
- ค่าภาษีของรถยนต์ตามประเภทการใช้งาน
- ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพ
อัตราค่าเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. สำหรับรถยนต์ ขึ้นอยู่กับประเภทรถ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 7 คน 600 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน ไม่เกิน 15 ที่นั่ง 1,100 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 15 ที่นั่ง ไม่เกิน 20 ที่นั่ง 2,050 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 20 ที่นั่ง ไม่เกิน 40 ที่นั่ง 3,200 บาท/ปี
รถยนต์โดยสารเกิน 40 ที่นั่ง 3,740 บาท/ปี
รถยนต์ไฟฟ้า 600 บาท/ปี
>>> ดูเพิ่มเติม รถมือสองที่ขายในประเทศไทย
ซึ่งอันที่จริงแล้วเราไม่ควรขาดต่อภาษีรถยนต์เลย เพราะจะมีปัญหามากมายตามมาทีหลัง และถ้าเป็นผู้ที่จำเป็นต้องใช้รถเป็นประจำอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการขาดต่อทะเบียน หากไม่สามารถเดินทางไปดำเนินการได้ด้วยตัวเอง สามารถมอบหมายให้ผู้อื่นมาแทนได้ โดยต้องใช้หนังสือมอบอำนาจ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจแสดงต่อเข้าหน้าที่ หรือสามารถดำเนินการต่อภาษีได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์มีช่องทางที่สามารถทำให้คุณต่อภาษีรถได้หลายวิธี ดังนั้นเมื่อถึงเวลาควรไปต่อภาษีให้เรียบร้อยจะดีที่สุด เพราะราคาก็ไม่ได้ถือว่าแพงเลยกับการที่ต้องเสียเป็นรายปีและการดำเนินการไม่ยุ่งยากอีกด้วย
จะเห็นได้ชัดว่าการ ขาดต่อภาษีรถยนต์ นั้นมีเรื่องยุ่งยากตามมามากมาย ไหนจะค่าปรับล่าช้า ยิ่งใครที่ขาดต่อภาษีรถยนต์ 3 ปี หรือมากกว่านั้น ทะเบียนรถยนต์ก็จะถูกระงับการใช้งาน หากไม่สะดวกเดินทางไปต่อภาษีรถยนต์ที่กรมขนส่ง ก็สามารถทำเรื่อง ต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์ได้อีกด้วย
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆ ได้ที่นี่