เวลาทำงานปกติ คืออะไร ? เวลาทำงานปกตินั้น หมายถึง เวลาเริ่มต้นลงมือทำงานจริง เพื่อให้มีผลผลิตชิ้นแรกออกมา และเป็นเวลาที่นายจ้างเริ่มจ่ายเงินบาทที่ 1 ให้ ทำกันไปเรื่อยๆ จนครบ 8 ชั่วโมง ลูกจ้างจึงวางมือจากงานที่ทำ และนายจ้างก็หยุดจ่ายเงินบาทสุดท้าย จึงจะถูกต้องตามความหมายของ “เวลาทำงาน”
ทางบริษัทนับเวลาทำงานตั้งแต่ตอกบัตรเข้า-ออกที่หน้าป้อมยาม บริษัทก็เริ่มจ่ายเงินบาทที่ 1 ให้ตั้งแต่เข้าป้อมยามมาแล้วเหมือนกัน
แต่พนักงานกว่าจะเข้าห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ดื่มกาแฟ เม้าท์ละครเมื่อคืน ก็กินเวลาไปอีก 10 นาที จึงเป็นการเอาเปรียบนายจ้างไปนิดหนึ่ง
การนับเวลาที่ป้อมยามเช่นนี้ จึงยังไม่ใช่เวลาทำงาน เป็นเพียงเวลาเข้ามาในเขตบริษัทเท่านั้นครับ บริษัทที่เปิดใหม่จึงนำเครื่องสแกนนิ้วมือมาไว้ที่หน้าไลน์การผลิต และนับ 1 ที่หน้าโต๊ะทำงานกันเลย เพื่อไม่ให้ลูกจ้างโยกโย้อยู่หน้าป้อมยาม หรือบางแห่งถ้าแก้ไม่ได้ ก็จะให้ไปลงชื่อที่โต๊ะหัวหน้างานแทนการสแกนนิ้วมือ ก็ช่วยเร่งพวกสวมรอยได้ระดับหนึ่ง
เวลาทำงานปกตินั้น จะนับกันเฉพาะเวลาทำงานจริงๆ ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง สำหรับงานทั่วไปเริ่มชั่วโมงที่ 1 เวลาใด ก็นับไปให้ครบ 4 ชั่วโมง จึงหยุดพัก 1 ชั่วโมง แล้วก็นับต่อไปอีก 4 ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องเริ่มที่ 8 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็นเสมอไป อาจจะเริ่มที่ 7 โมงเช้า เลิก 4 โมงเย็น เริ่มที่ 11 โมงเช้า เลิก 2 ทุ่ม หรือเริ่ม 2 ทุ่ม เลิกตี 4 ก็ได้ ที่สำคัญคือต้องทำงาน 8 ชั่วโมง พักกึ่งกลาง 1 ชั่วโมง รวมเป็น 9 ชั่วโมง (ทำงาน 8 + พัก 1)
สำหรับงานอันตรายต่อสุขภาพก็ไม่เกินวันละ 7 ชั่วโมง โดยใช้หลักการเริ่มและการเลิกอย่างเดียวกัน
เพิ่มคอมเมนต์ใหม่
การคำนวณโอที
หลายๆ องค์กรเมื่อนึกถึง เครื่องสแกนลายนิ้วมือ มักจะมีคำถามต่อมาว่า เราเข้างานเป็นกะมีหลายกะจะรองรับไหม? จะคำนวณโอทีได้ไหม? คำนวณโอทีแบบไหนได้บ้าง? ถ้ามีโอทีตอนเช้าก่อนเข้างานทำได้หรือไม่? โอทีตอนเย็นหลังเลิกงานล่ะ? แล้วถ้าต้องการกำหนดช่วงเวลาให้พนักงานทำโอทีและให้คำนวณแค่นี้จะทำได้หรือเปล่า? จะยืดหยุ่นพอไหมกับการคำนวณโอทีตามรูปแบบขององค์กรตนเอง นานาคำถามที่เกิดขึ้นและต้องการคำตอบว่า เครื่องสแกนลายนิ้วมือ หรือเครื่องสแกนใบหน้า สามารถรองรับและตอบโจทย์เงื่อนไขที่ซับซ้อนของผู้ใช้งานได้หรือไม่!!!
เครื่องสแกนใบหน้า และ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ จะทำงานร่วมกับโปรแกรมคำนวณเวลา Premium Time โดยโปรแกรมจะรับข้อมูลการบันทึกเวลาจาก เครื่องสแกนใบหน้า และ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ มาคำนวณซึ่งเราสามารถตั้งค่าต่างๆ เช่น ตั้งกะให้พนักงาน ตั้งช่วงเวลาโอที ตั้งค่าวันหยุดประจำปี และวันหยุดต่างๆ รวมถึงการลาของพนักงาน เป็นต้น แต่ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกในเรื่องการคำนวณโอทีกัน!!!
โอทีในโปรแกรมคำนวณเวลา Premium Time สามารถตั้งได้ทั้ง โอทีก่อนเข้างาน และโอทีหลังเลิกงาน ซึ่งในการตั้งค่าสามารถตั้งค่าได้ตามรูปแบบดังนี้
กำหนดช่วงเวลาการให้โอทีได้ เป็นต้นว่า บริษัททำงาน 8 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น และเริ่มคิดโอทีตอน 6 โมงเย็นไปจนถึง 2 ทุ่ม นั้นหมายความว่าโอทีคิดตามจริงแต่ไม่เกิน 4 ทุ่ม และหากในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องการให้พนักงานทำโอทีก่อนเข้างาน เช่น เริ่มทำโอทีตอน 6 โมงเช้า ถึง 8 โมง ก็สามารถกำหนดได้เช่นกัน ซึ่งในการตั้งค่าสแกนใบหน้า หรือสแกนนิ้วมือ เพื่อคำนวณโอทีสามารถทำได้ 2 แบบ ได้นี้
แบบที่หนึ่ง ให้พนักงานสแกนเพียง 2 ครั้ง คือสแกนตอนเข้างานและสแกนอีกครั้งตอนเลิกงาน โปรแกรมก็จะคำนวณโอทีให้อัตโนมัติ ในช่วงเวลาที่เราตั้งค่าไว้ เช่นตามตัวอย่าง กำหนดให้พนักงานทำโอที 6 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม หากพนักงานสแกนตอน 8 โมงเช้าเพื่อเข้างานและสแกนตอน 4 ทุ่มเพื่อเลิกงาน โปรแกรมก็จะคำนวณโอทีให้ 4 ชั่วโมง คือตั้งแต่ 18.00 น – 22.00 น. นั้นเอง
แบบที่สอง ให้พนักงานสแกนก่อนเข้าโอที หมายความว่าหากพนักงานต้องการทำโอที หรือมีคำสั่งให้ทำโอที พนักงานจะต้องสแกนหน้าหรือสแกนลายนิ้วมือก่อนทำโอทีและสแกนตอนเลิกงานโปรแกรมจึงจะคำนวณโอทีให้ ดังตัวอย่างพนักงานก็จะต้องสแกนเพื่อเข้างาน 8 โมงเช้า และสแกนเพื่อออกงานตอน 5 โมงเย็น และสแกนเพื่อเข้าโอทีตอน 6 โมงเย็น และสแกนเพื่อออกโอทีตอน 4 ทุ่ม รูปแบบการเข้าออกงานและการทำโอทีจึงจะสมบูรณ์แบบ
หากมีคำถามว่ากรณีที่มีพนักงานลืมสแกนล่ะจะทำอย่างไร Admin หรือ HR สามารถบันทึกเวลาให้ได้กรณีที่พนักงานลืมสแกน แต่หากพนักงานสแกนแล้วแต่ต้องการเปลี่ยนเวลาจะไม่สามารถแก้ไขได้นะจ๊ะ!!!
นานาสาระเกี่ยวกับ เครื่องสแกนใบหน้า เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เพียงติดตามเราที่ www.charoenfingerscan.com
หรือมีคำถามที่ต้องการคำตอบและคำแนะนำเพียงโทรหาเราที่ 089-106-2456