การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสถานศึกษา
หัวเรื่อง : การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสถานศึกษา
ชื่อเรื่อง - การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสถานศึกษา
ผู้แต่ง - ศ.นพ.วันชัย-รัตนาภรณ์ วัฒนศัพท์
จำนวนหน้า - 162 หน้า
จัดพิมพ์โดย - สถาบันพระปกเกล้า
ราคา - 120.-
หนังสือการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสถานศึกษา
ได้รวบรวมองค์ความรู้ด้านความขัดแย้งต่างๆที่เกิดขึ้นในสถานศึกษาและแนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยประกอบไปด้วยหัวข้อหลัก 4 หัวข้อดังต่อไปนี้
1.ความเข้าใจพื้นฐานของความขัดแย้งในโรงเรียน
2.การบริหารความขัดแย้ง
3.การแก้ปัญหาความขัดแย้งในโรงเรียน
4.การเจราไกล่เกลี่ยคนกลาง
เพื่อให้ความรู้พร้อมแนะแนวทางวิธีการจัดการความขัดแย้งในสถานศึกษาและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับองค์กรการทำงานได้อีกด้วย
หนังสือจำหน่าย
ติดต่อสอบถาม ฝ่ายพัสดุ
สถาบันพระปกเกล้า
โทรศัพท์ 0-2141-9656-59
Share :
กลับไปหน้าหลัก
3.2 สาเหตุของความขัดแย้งระหว่างนักเรียนหรือเยาวชนในชุมชน
สาเหตุขางความขัดแย้งระหว่างนักเรียนหรือเยาวชนในชุมชนเกิดมาจากสาเหตุที่สำคัญหลายประการ ได้แก่
1. การยึดถือค่านิยมการแก้แค้นระหว่างกลุ่มหรือสถาบัน
วัยรุ่นมักจะมีความจงรักภักดีต่อกลุ่มหรือสถาบัน ต้องการรักษาเกียติยศและศักดิ์ศรีของกลุ่มหรือสถาบัน จึงยินดีปฏิบัติด้วยความเต็มใจ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง
2. การรักพวกพ้อง เมื่อเพื่อนมีความทุกข์ต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือโดยที่ไม่คำนึงถึงความถูกผิดหรือใช้เหตุผลในการวิเคราะห์
มักใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เพื่อเป็นการแสดงถึงความรักเพื่อน
3. ความมีอคติต่อกัน เนื่องจากวัยรุ่นส่วนใหญ่จะอยู่รวมกับเพื่อนเป็นกลุ่ม ซึ่งภายในกลุ่มจะมีความเห็น กิริยามารยาท หรือการแต่งกายที่คล้ายคลึงกัน เมื่อพบเห็นวัยรุ่นกลุ่มอื่นที่มีความเห็นกิริยามารยาท หรือการแต่งการที่ไม่เหมือนกับกลุ่มของตนเองก็จะเกิดความอคติขึ้นในจิตใจ
4. การล้อเลียนปมด้อยหรือความผิดปกติของผู้อื่น เนื่องจากความคึกคะนองของตัวเอง ทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด นึกถึงแต่ความสนุกสนาน
5. การวางอำนาจหรือการข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า เนื่องจากวัยรุ่นต้องการที่จะให้ผู้อื่นเนื่องจากความคึกคะนองของตัวเอง จึงใช้วิธีการดึงดูดความสนใจด้วยการวางอำนาจหรือการข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า โดยเด็ดขาดคำชี้แนะหรือขาดการอบรมสั่งสอนที่ถูกต้องจากผู้ใหญ่
6. การพูดจาโอ้อวดเกินความเป็นจริง เนื่องจากมีความต้องการและความปรารถนาใหม่ๆ เกิดขึ้นและเป็นไปอย่างรุนแรง จึงพูดจาโอ้อวดเกินความเป็นจริงโดยไม่ได้คำนึงว่าจะทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่พอใจ
7.การแข่งขันหรือแย่งชิงผู้หญิงคนเดียวกัน เนื่องจากวัยรุ่นมีความต้องการและความปรารถนาใหม่ๆ เกิดขึ้นและเป็นไปอย่างรุนแรง จึงมักไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ
ในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาหรือหมายปอง
8. การชักชวนหรือบังคับให้สารเสพติด ในบางชุมชนอาจมีปัญหาสารเสพติดระบาดในชุมชน ซึ่งเยาวชนในชุมชนอาจชักชวนหรือบังคับให้เพื่อนหรือเยาวชนเสพสารเสพติด หากถูกปฏิเสธก็จะก่อให้เกิดความขัดแย่งต่อกันได้
ปัญหาความขัดแย้ง
ปัญหาความขัดแย้งในกลุ่มนักเรียนหรือเยาวชนมีหลายประการ ดังนี้
1.การทะเลาะวิวาทภายในสถาบัน อาจเกิดจากบุคคล 2 คนที่ทำร้ายชกต่อย ตีกัน ปัญหาการรังแกกันใน โรงเรียน ที่พบบ่อยคือการทำร้ายจิตใจกันด้วยวาจา การล้อเลียนกัน การที่รุ่นพี่ครอบงำบังคับรุ่นน้องและการ คุกคามทางเพศ
2.การทะเลาะวิวาทภายนอกสถาบัน ส่วนใหญ่เป็นความรุนแรงที่เกิดจากความรุนแรงที่เกิดจากความไม่พอใจ กันระหว่างบุคคลกับบุคคล หรืออาจขยายเป็นระหว่างกลุ่มมักเกิดจากนักเรียน
3.การถูกทำร้ายทางเพศ วัยรุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่ถูกทำร้ายทางเพศ โดยมากมักเกิดจากความขัด แย้ง ทำให้เกิดความโกรธ อยากแก้แค้นกัน อาจใช้วิธีหลอกล่อและบังคับบางรายถูกทำร้ายทางเพศติดต่อกัน หลายปี กว่าที่คนใกล้ชิดหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะรู้เรื่องหรือผู้ถูกทำร้ายทางเพศยอมเปิดเผยเรื่องราว
ปัญหาความขัดแย้งในกลุ่มนักเรียนหรือเยาวชนมีหลายประการ ดังนี้
1.การทะเลาะวิวาทภายในสถาบัน อาจเกิดจากบุคคล 2 คนที่ทำร้ายชกต่อย ตีกัน ปัญหาการรังแกกันใน โรงเรียน ที่พบบ่อยคือการทำร้ายจิตใจกันด้วยวาจา การล้อเลียนกัน การที่รุ่นพี่ครอบงำบังคับรุ่นน้องและการ คุกคามทางเพศ
2.การทะเลาะวิวาทภายนอกสถาบัน ส่วนใหญ่เป็นความรุนแรงที่เกิดจากความรุนแรงที่เกิดจากความไม่พอใจ กันระหว่างบุคคลกับบุคคล หรืออาจขยายเป็นระหว่างกลุ่มมักเกิดจากนักเรียน
3.การถูกทำร้ายทางเพศ วัยรุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่ถูกทำร้ายทางเพศ โดยมากมักเกิดจากความขัด แย้ง ทำให้เกิดความโกรธ อยากแก้แค้นกัน อาจใช้วิธีหลอกล่อและบังคับบางรายถูกทำร้ายทางเพศติดต่อกัน หลายปี กว่าที่คนใกล้ชิดหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะรู้เรื่องหรือผู้ถูกทำร้ายทางเพศยอมเปิดเผยเรื่องราว