สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)
Digital Government Development Agency
โทรศัพท์: (+66)0 2612 6060
(Public Organization) (DGA)
อีเมล:
All rights reserved 2015. Digital Government Development Agency (Public Organization) (DGA)
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)
Digital Government Development Agency
(Public Organization) (DGA)
All rights reserved 2015. Digital Government Development Agency (Public Organization) (DGA)
โทรศัพท์: (+66)0 2612 6060
อีเมล:
Internet Payment คืออะไร
Internet Payment เป็นการชำระค่าสินค้าและบริการหรือโอนเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น
| การตัดบัญชีเงินฝากผ่านบริการ Internet Banking ของธนาคาร (ลักษณะเดียวกับการโอนเงิน) ซึ่งมีการเชื่อมโยงไว้กับเว็บไซต์ของร้านค้า
|
| การชำระผ่านเว็บไซต์ของร้านค้าออนไลน์ ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
|
| การชำระผ่านเว็บไซต์ของร้านค้าออนไลน์ ด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ซึ่งได้เปิดบัญชีไว้กับผู้ให้บริการ e-Money ผ่านเว็บไซต์ และเติมเงินเข้าบัญชีให้เพียงพอ
|
ข้อดีของการใช้บริการ Internet Payment
- เพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มช่องทางในการชำระเงินผ่านเว็บไซต์ให้กับร้านค้าและผู้ซื้อสินค้า
- ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมการชำระเงิน
- ใช้บริการที่ไหนก็ได้ที่สามารถใช้ระบบอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง
- มีบริการเสริมอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น สรุปยอดบัญชีคงเหลือ แสดงรายการเดินบัญชีปัจจุบัน/ประวัติการทำรายการย้อนหลัง ใบแจ้งยอดชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bill)
ข้อควรระวังในการใช้บริการ Internet Payment
- ต้องเลือกซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการทุจริต และเลือกช่องทางการชำระเงินที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับ รวมทั้งไม่ควรใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะในการทำรายการชำระค่าสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต
- การซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของทั้งร้านค้าออนไลน์และผู้ให้บริการชำระเงิน ร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อถือได้จะได้รับใบรับรองดิจิตอล (Digital Certificate) ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระบบความปลอดภัยของข้อมูลโดยการเข้ารหัสก่อนส่งทุกครั้ง โดยมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยของการส่งผ่านข้อมูลแบบ SSL (Secure Socket Layer) ซึ่งแสดงว่าเว็บไซต์นี้ได้รับการรับรองความปลอดภัยในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างกัน หรือร้านค้าออนไลน์บางแห่งอาจมีการใช้ระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ด้วย
- การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิตที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้น และสามารถลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งลูกค้าจำเป็นต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของธนาคารผู้ออกบัตร เพื่อใช้ Verified by Visa (VBV), Master Card Secure Code
(MCSC) และ JCB J/Secure
- ควรศึกษารูปแบบธุรกรรมและวิธีการรักษาความปลอดภัยที่ธนาคารเสนอให้บริการ Internet Banking ก่อนตัดสินใจใช้บริการ และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการตั้ง Password ที่ง่ายต่อการคาดเดา และไม่บอก User ID และ Password แก่ผู้อื่น พร้อมทั้งเปลี่ยน Password เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
- หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ใด ๆ ที่แนบมาพร้อมกับอีเมล โดยให้พิมพ์ Address ของ Website ของสถาบันผู้ออกบัตรด้วยตนเอง เมื่อต้องการเข้าใช้บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
- อย่าหลงเชื่อตอบหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลสำคัญทางการเงิน เช่น Username, Password, ATM PIN และหมายเลขบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ไม่ว่าจะถามทางอีเมล โทรศัพท์ โทรสาร หรือจดหมาย ก็ตาม อย่าลืมว่าสถาบันผู้ออกบัตรมีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว และระลึกไว้เสมอว่าผู้ถามอาจจะเป็นมิจฉาชีพ
- ควรตรวจสอบความถูกต้องของรายการธุรกรรมอย่างสม่ำเสมอ เช่น จำนวนเงิน วันที่ทำรายการ เลขที่บัญชี และตรวจสอบยอดเงินในบัญชี เพื่อป้องกันรายการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
- ควรติดตั้งและปรับปรุงโปรแกรมเพื่อการรักษาความปลอดภัยที่เครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมให้ทันสมัย เช่น โปรแกรม Scan Virus และโปรแกรม Personal Firewall
- ไม่ควรดาวน์โหลด ติดตั้งโปรแกรมที่ไม่น่าเชื่อถือ โปรแกรมที่ไม่ทราบแหล่งที่มา และกรณีไม่ได้ใช้งานควรปิด Bluetooth และ Wireless
- ทุกครั้งที่ใช้บริการเสร็จ ควรคลิก "ออกจากระบบ" (Log off, Log out, Sign off) ทันที เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นสามารถทำรายการจากบัญชีของท่านได้
- หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจ ควรติดต่อธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทที่ท่านใช้บริการโดยเร็ว
- ควรแจ้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่เป็นปัจจุบันให้ธนาคารพาณิชย์ทราบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากบริการ Internet Banking จะต้องรับ SMS แจ้ง OTP เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนผู้ทำรายการที่แท้จริง
ขั้นตอนการใช้บริการธนาคารออนไลน์
1. ชำระโดยการตัดบัญชีเงินฝากผ่าน Internet Banking ซึ่งมีการเชื่อมโยงไว้กับเว็บไซต์ของร้านค้า
2. ชำระผ่านเว็บไซต์ของร้านค้าออนไลน์ ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
3. ชำระผ่านเว็บไซต์ของร้านค้าออนไลน์ ด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)
คำถามถามบ่อย
| จะมั่นใจได้อย่างไรว่าการชำระค่าสินค้าและบริการที่ซื้อผ่านเว็บไซต์ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตมีความปลอดภัย ทั้ง ๆ ที่ร้านค้าไม่เห็นตัวผู้ซื้อหรือบัตรเลย |
| การซื้อของผ่านเว็บไซต์ ผู้ซื้อจะต้องกรอกหมายเลขบัตรเครดิต/บัตรเดบิต รวมทั้งหมายเลข CVV (Card Verification Value) เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง โดย CVV ของบัตร Visa และ Master Card เป็นเลข 3 หลักสุดท้ายที่พิมพ์อยู่ด้านหลังของบัตร ส่วนของบัตร American Express เป็นเลข 4 หลักที่อยู่ด้านหน้าของบัตรทางด้านขวาเหนือหมายเลขบัตร นอกจากนี้ ผู้ให้บริการรับบัตรบางรายอาจมีขั้นตอนตรวจสอบอื่น ๆ เพื่อยืนยันว่าผู้ถือบัตรเป็นผู้ทำรายการจริง เช่น Verified by VISA, MasterCard SecureCode, J/Secure รวมไปถึงกรณีสถาบันผู้ออกบัตรอาจโทรมาสอบถามเมื่อมีการใช้จ่ายยอดเงินสูง |
| Verified by Visa (VBV), MasterCard SecureCode (MCSC) และ JCB J/Secure คืออะไร ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ และขั้นตอนการสมัครใช้บริการ |
| (1) Verified by Visa (VBV), MasterCard SecureCode (MCSC) และ JCB J/Secure เป็นการใช้ “รหัสผ่าน” ของระบบ VISA/MasterCard/JCB ซึ่งอาจอยู่ในรูป PIN หรือรูป OTP ซึ่งเป็นรหัสที่ใช้ครั้งเดียวโดยรับ SMS ทางโทรศัพท์มือถือที่แจ้งเบอร์ไว้ (ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตร) และใช้ร่วมกับ “ข้อความยืนยันส่วนตัว” ที่ผู้ซื้อเป็นผู้กำหนดตอนสมัครใช้บริการ หรือขอเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการชำระด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิต ไม่ให้ผู้อื่นใช้แค่หมายเลขบัตรในการทำรายการ
และมั่นใจได้ว่าร้านค้าออนไลน์ที่ทำรายการอยู่นั้นได้มีการลงทะเบียนกับระบบแล้ว (ในเว็บไซต์ของร้านค้าจะมีสัญลักษณ์ดังกล่าว) (2) ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ ในครั้งแรกให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของสถาบันผู้ออกบัตร หรือหากนำบัตรเครดิตที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนไปใช้ชำระให้ร้านค้าออนไลน์ ระบบก็จะปรากฏหน้าจอให้ลงทะเบียนโดยอัตโนมัติ โดยขั้นที่ 1 กรอกข้อมูลวันเดือนปีเกิด วันที่บัตรหมดอายุ วงเงินของบัตร หมายเลขบัตรประชาชน และขั้นที่ 2 กำหนด “ข้อความยืนยันส่วนตัว” และ “รหัสผ่าน” และเมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้ว เจ้าของบัตรสามารถนำ “รหัสผ่าน” และ “ข้อความยืนยันส่วนตัว” ที่ตนเป็นผู้กำหนด ไปทำรายการชำระเงินให้ร้านค้าออนไลน์ได้ทันที ตัวอย่างการสมัคร Verified by Visa |
| ใช้ Verified by VISA, MasterCard SecureCode และ JCB J/Secure อย่างไรให้ปลอดภัย |
| เนื่องจาก Verified by VISA, MasterCard SecureCode และ JCB J/Secure เป็นเหมือนกุญแจอีก 1 ดอกที่ป้องกันมิจฉาชีพมาขโมยเงินในกระเป๋า ดังนั้น ผู้ถือบัตรเดบิต/บัตรเครดิต จึงควรให้สำคัญในเรื่องดังต่อไปนี้(1) การจัดการ “รหัสผ่าน” ไม่เปิดเผยรหัสผ่านให้ผู้อื่นทราบ ไม่ใช้ระบบช่วยจำรหัสผ่านที่มีอยู่ใน Web Browser ไม่ใช้รหัสผ่านของระบบ Verified by VISA, MasterCard SecureCode และ JCB J/Secure ร่วมกับรหัสผ่านของการใช้บริการอื่นทางอินเทอร์เน็ตหรืออีเมล เปลี่ยนรหัสผ่านทันทีที่เข้าใช้บริการครั้งแรก |
ค่าธรรมเนียมในการใช้บริการ Internet Banking
เรื่องที่น่าสนใจ