การตรวจสภาพเครื่องยนต์ก่อนใช้งาน
1.เปิดฝาน้ำมันเชื้อเพลิง ถอดกรองปากถังกรองปากถังออกตรวจดูระดับน้ำมันเชื้อเพลิงว่าได้ระดับพอกับการใช้งาน ถ้าต่ำมากควรเติมน้ำมันเชื่องเพลิงที่ผสมกับน้ำมันของเครื่องยนต์ 2 จังหวะในอัตราส่วนที่ ถูกต้องลบไปถังให้พอดีต่อการใช้ แล้วใส่กรองปิดฝาถัง
2.ถอดฝาครอบกรองอากาศและไส้กรอง นำไส้กรองมาตรวจสภาพ ถ้าสกปรกให้ทำความสะอาดแต่ถ้าชำรุดต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ แล้วประกอบฝาครอบกรองอากาศกลับเข้าดังเดิม
การตรวจบริการเครื่องยนต์ตามกำหนดเวลา
1.ปิดก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิง ถอดถ้วยกรองน้ำมันเชื้อเพลิง โอริง และตะแกรงกรองออกทำความสะอาดถ้าเสื่อมสภาพให้เปลี่ยนใหม่
2.ถอดท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิง และกรองฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมกับถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออก แล้วทำความสะอาดถังน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจสภาพ ถ้าชำรุดให้เปลี่ยนใหม่
3.ประกอบถังน้ำมันเชื้อเพลิง กรองปากถัง ตะแกรงกรอง โอริง และถ้วยกรองน้ำมันเชื้อเพลิงจากนั้นต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสมน้ำมันเครื่องยนต์ 2 จังหวะในอัตราส่วนที่ถูกต้องลงในถังน้ำมันเชื้อเพลิงให้พอกับ การใช้งานหรือเต็มถังปิดฝาถังให้เรียบร้อย
4.ดึงปลั๊กหัวเทียนออกจากหัวเทียน
ถอดหัวเทียนออกทำความสะอาดแล้วตรวจและปรับตั่งช่องว่างเขี้ยวหัวเทียน
5.ทดสอบโดยนำหัวเทียนเสียบเข้ากับปลั๊กหัวเทียนแล้วดึงเชือกชุดสตาร์ต สังเกตไฟที่เขี้ยวหัวเทียน ถ้าเป็นสีน้ำเงินแสดงว่าใช้ได้ แต่ถ้าเป็นสีแดงหรือไม่มีไปให้เปลี่ยนหัวเทียนใหม่
6.ถอดท่อไอเสียออกมาขูด เคาะ
ทำความสะอาด แล้วตรวจสภาพท่อไอเสียและปะเก็บไอเสียถ้าชำรุดให้ซ้อมหรือเปลี่ยนใหม่ ยกเว้นปะเก็นท่อไอเสียจะต้องเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง แล้วประกอบท่อไอเสียกลับ
7.เปิดก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิง ติดเครื่องยนต์ทดสอบการทำงาน ถ้าผิดปกติให้ดับเครื่องและแก้ไขให้เรียบร้อย แล้วจึงค่อยดับเครื่องยนต์และทำการปิดก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิง
การบริการเครื่องยนต์เพื่อการเก็บรักษาเป็นเวลานาน
1.ถอดปลั๊กหัวเทียนและถอดหัวเทียนออก
2.หยอดน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ
เข้ารูหัวเทียนเล็กน้อย
3.หมุนเพลาข้อเหวี่ยงช้าๆ ประมาณ 3-5 รอบ เพื่อให้น้ำมันหล่ิลื่นชโลมทั่วกระบอกสูบ แล้วหมุนข้อเหวี่ยงให้ลูกสูบอยู่ในตำเเหน่งศูนย์ตายบน
4.ถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากถังทั่งที่ค้างอยู่ที่ก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิงและในคาร์บูเรเตอร์ออกให้หมด
5.ใช้ผ้าคลุมเครื่องคลุมเครื่องไว้เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
6.ทำความสะอาดเครื่องมือและบริเวณปฏิบัติงาน
การถอดชิ้นส่วน
1.ปิดก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วถอดท่อน้ำมันเชื้อเพลิงออก
2.ถิดปลั๊กหัวเทียนและหัวเทียนออกจากฝาสูบ แล้วนำกระกระดาษหรือผ้าอุดรูหัวเทียนไว้เพื่อป้องกันสิ่งของตกเข้าไปในกระบอกสูบ
3.ถอดถังน้ำมันเชื้อเพลิง
4.ถอดชุดสตาร์ต
5.ปลดสายดับเครื่องและอื่นๆ ที่ยึดติดกับฝาครอบพัดลม และถอดฝาครอบพัดลม
6.ถอดสวิตช์ดับเครื่องยนต์ออก
7.ถอดฝาครอบฝาสูบ
8.ถอดแป้นสตาร์ต พัดลม และล้อแม่เหล็กจานไฟออก ซึ่งการถอดแม่เหล็กจานไฟจะต้องระวังลิ่มล็อคหล่นหายและการชำรุดของใบพัดลมด้วย
9.ถอดฝาครอบหน้าทองขาว คอยล์จุดระเบิด และลูกเบี้ยวเตะขาหน้าทองขาวออกพร้อมลิ่มแต่สำหรับเครื่องยนต์ที่จุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิคจะไม่มีชุดหน้าทองขาว ดังนั้นให้ถอดคอยล์จุดระเบิดก่อนแล้วจึงถอด แป้นสตาร์ตัดลมและล้อแม่เหล็กจานไฟออก
10.ถอดครีบระบายความร้อน แผ่นครอบฝาสูบ ฝาพัดลม แป้นสตาร์ต ัดลม และล้อแม่เหล็กจานไฟอกมาทำความสะอาด โดยจัดเรียงให้เป็นระเบียบ
การตรวจสอบสภาพและบริการอุปกรณ์จุดระเบิด
1.ทำความสะอาดหัวเทียนและปลั๊กหัวเทียน
พร้อมกับตรวจสอบสภาพและปรับตั่งช่องว่างเขี้ยวหัวเทียนโดยใช้เกจตั่งเขี้ยวหัวเทียน และถ้าชำรุดหรือเสื่อมสภาพให้เปลี่ยนใหม่
2.ตรวจสภาพคอยล์จุดระเบิด
3.ตรวจสภาพหน้าทองขาว
4.ตรวจสภาพคอนเดนเซอร์
5.ตรวจสอบการลัดวงจรของสวิตช์ดีบเครื่องยนต์ ถ้าชำรุดให้เปลี่ยนใหม่
6.ตรวจสอบสายไฟทั่งหมด ถ้าสายขาดหรือชำรุดให้ซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
การถอดชุดสตาร์ต
1.ดึงเชือตาร์ตที่เกี่ยวอยู่กับร่องที่ขอบตลับเชือก แล้วหมุนตลับตามแนวดึงของสปริงจนสุดเพื่อให้สปริงคลายตัว
2.ถอดมือดึงออกจากเชือก
3.คลายนอตล็อคฝาครอบเขี้ยวสตาร์ต ถอดฝาครอบเขี้ยวสตาร์ต เขี้ยวสตาร์ต ขาเตะเขี้ยวสตาร์ต สปริงดันขเตะเขี้ยวสตาร์ต ปลอกหมุน และสลักเขี้ยวสตาร์ตออกจากตลับตามลำดับ
4.ถอดเชือกออกจากตลับเชือกแล้วยกจานสปริง
โดยสังเกตุการเกี่ยวขาสปิงและกาวม้วนของขดสปิงภายในจานสปิง แล้วถอดสปิง แล้วถอดสปริงออกจากจานสปริง
การตรวจสภาพชิ้นส่วนต่างๆ ของชุดสตาร์ต
1.ตรวจสภาพเชือกสตาร์ตและมือดึง ถ้าชำรุดให้ซ้อมหรือเปลี่ยนใหม่
2.ตรวจสภาพขดสปริง ถ้าชำรุดให้ซ้อมหรือเปลี่ยนใหม่
3.ตรวจสภาพเขี้ยวสตาร์ต ขาเตะเขี้ยวสตาร์ต และสลักเขี้ยวสตาร์ต ถ้าชำรุให้เปลี่ยนใหม่
4.ตรวจสภาพตลับเชือก ถ้าชำรุดให้ซ้อมหรือเปลี่ยนใหม่
การประกอบชุดสตาร์ต
1.ชโลมน้ำมันเครื่องหรือจาระบีบางๆ จนทั่วขดสปริง
2.ประกอบขดสปริงเข้ากับจานและฝาครอบใหถูกต้อง
3.ประกอบเชือกเข้ากันตลับเชือก
แล้วรัดให้เกี่ยวกับขอบตลับให้ถูกต้อง
4.ประกอบตลับเชือกเข้ากับฝาครอบชุดสตาร์ต ทดสอบหมุเชือกไปในทิศทางการขับสตาร์ตประมาณ1/4-1/2รอบ แล้วค่อยๆๆปล่อยตลับเชือก ซึ่งตลับเชือกจะต้องหมุนกลับด้วยแรงสปริงถ้าไใ่ได้ต้องประกอบใหม่
5.ประกอบสลักเขี้ยวสตาร์๖
ปลอกหมุน สปริงดันขาเตะเขี้ยวสตาร์ต ขาเตะเขี้ยวสตาร์ต และเขี้ยวสตาร์ตเข้าตามลำดับ
6.หมุนตลับเชือกไปในทิศทางการขับสตาร์ต 3-4 รอบ โดยที่ขณะหมุนตลับเชือกจะมีแรงต้านทานจากขดสปิง แต่ถ้าไม่มีแรงต้านทานจากขดลวดอสดงว่าประกอบไม่ถูกต้อง ให้ถอดและปะกอบใหม่
7.จับตลับเชือกให้แน่นกับเรือนสปริงสตาร์ต แล้วสอดเชือกที่เป็นิสระผ่านรูร้อยเชือกที่ฝาครอบชุดสตาร์ตแล้วดึงออกให้สุด จับปลายเชือกให้เป็นอิสระ ซึ่งเชือกจะถูกม้วนเก็บเข้าตลับเชือกเอง
8.สอดมือดึงเข้ากับปลายเชือกแล้วผูกปลายเชือกให้แน่น ตรวจสอบการทำงานของชุดสตาร์ตอีกครั่ง
ถ้าไม่ถูกต้องให้แก้ไขหรือถอด-ประกอบใหม่
9.ประกอบลิ่มลูกเบี้ยวเตะหน้าทองขาว ชุดหน้าทองขาว และคอยล์จุดระเบิด โดยควรใช้จาระบีหล่อลื่นลูกเบี้ยวกับขาไฟเบอร์ของหน้าทองขาวขณะประกอบด้วย
การปรับตั่งตำแหน่งการจุดระเบิด
1.หมุนเพลาข้อเหวียงจนลูกอยู่ในตำแหน่งศูนย์ตายบนให้มากที่สุด
2.ติดตั่งเกจหน้าปัด โดยจะต้องกดเกจหน้าปัดให้เข็มหมุนประมาณ4-5รอบ แล้วจึงค่อยล็อคเกจหน้าปัด
3.หาตำแหน่งศูนย์ตายบนอย่างระเอียดอีกครั่งโดยการสังเกตุเข็มของเกจหน้าปัด จากนั้นทำการตั้งศูนย์เกจหน้าปัด
4.หมุนเพลาข้อเหวี่ยงตามทิศทางการทำงานจนลูกสูบอยู่ในตำแหน่งจุดระเบิดตามทีีคู่มือกำหมดโดยให้สังเกตที่ระยะและตำแหน่งเกจหน้าปัด
5.ตรวจสอบเครื่องไทมื่งเทสเตอร์โดยการเปิดเครื่อง ถ้าสสายทั่งสองไม่ต่อกันจะมีเสียงดังขึ้น
การประกอบชิ้นส่วน
1.ประกอบล้อแม่เหล็กจานไฟ
ใบพัดลดม และแป้นสตาร์ต โดยต้องขัดให้แน่นตามกำำหมดเพื่อป้องกันลิ่มล้อแม่เหล็กจานไฟและเพลาข้อเหวี่ยงเสียหาย
2.ประกอบสวิตช์ดับเครื่องและฝาครอบพัดลม พร้อมกับต่อสายสวิช์ดับเครื่องให้ถูฏต้อง
3.ประกอบชุดสตาร์ตและแผ่นครอบฝาสูบ
4.ประกอบถังน้ำมันเชื้อเพลิง
5.ประกอบหัวเทียนและปลั๊กหัวเทียน
6.ต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วเปิดก๊อกน้ำมันออกเพื่อตรวจสอบการรั่วของน้ำมันเชื้อเพลิง
7.ติดเครื่องยนต์ทดสอบการทำวาน ถ้าผิดปกติให้ทำการถอดและประกอบใหม่
8.ดับเครื่องยนต์แล้วปิดก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิง
9.ทำความสะิาดอุปกรณ์และบริเวณที่ปฏิบัติงาน.
การชิ้นส่วนระบบน้ำมันเชื้อเพลิง
1.ปิดก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วถอดท่อน้ำมันเชื้อเพลิงที่จุดต่อเข้าคาร์บูเรเตอร์ออก
2.ถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากถังใส่ภาชนะรองรับโดยการเปิดก๊อกน้ำมันเชื่้อเพลิง แต่ขณะถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงควรเปิดฝาถังและนำกรองปากออกด้วย หลังจากเสร็จสิ้นให้ปิดก๊อกน้ำมันเชื้อเพลิง
3.ถอดปลั๊กหัวเทียนออกจากหัวเทียน
4.ถอดถังน้ำมันเชื้อเพลิงและอุปกรณ์ประกอบออก
5.คลายนอตยึดแขนกาวานาแล้วถอดออก โดยระวังอย่าให้ก้านต่อกาวานาและสปริงรั้งกลับชำรุด
6.ถอดการต่อกาวานาและสปริงรั้งกลับออกจากคาร์บูเรเตอร์
7.ถอดสปริงแขนกาวานาออกจากชุดบังคับเร่ง
โดยควรจดจำตำแหน่งการเกี่ยวไว้เพื่อการประกอบกลับด้วย
8.ถอดชุดกรองอากาศออก
9.ถอดคาร์บูเรเตอร์ โดยระวังอย่าให้ปะเก็นหน้าแปลนคาร์บูเรเตอร์ขาด
หลังจากนั้นถอดชุดบังคับคันเร่งออก
10.ถอดฝาครอบห้องกาวานาออก โดยระวังอย่าให้ปะเก็นฝาครอบห้องกาวานาขาด
11.ถอดชุดกลไกกาวานาออก
12.ถอดแยกชิ้น่สวนคาร์บูเรเตอร์ออก
การประกอบชิ้นส่วน
1.ประกอบชุดกลไกกาวานาให้ถูกต้อง ถ้าประกอบไม่ถูกต้องจะทำให้ชิ้นส่วนชำรุดหรือไม่สามารถควบคุมความเร็วได้
2.ประกอบฝาครอบห้องกาวานาให้ถูกต้อง
3.ประกอบชุดบังคับเร่ง
4.ประกอบคาร์บูเรเตอร์และเรือนกรองอากาศ
5.ประกอบก้านต่อกาวานาและสริงรั่งกลับเข้าคาร์บูเรเตอร์
6.ประกอบแขนกาวานาให้ถูกต้อง โดยยังไม่ต้องล็อคนอตยึดแขนกาวานา
และให้รังวังก้านกาวานาและสริงรั่งกลับชำรุดด้วย
การตรวจสภาพชิ้นส่วนต่างๆ
1.ตวรจสอบฝาสูบว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ ถ้าพบให้ทำการซ่อม
2.ตรวจสอบปะเก็นฝาสูบ ถ้าเสียหายให้เปลี่ยนใหม่
3.ตรวจสอบลูกสูบโดยไมโครมิเตอร์วัดความสึกหรอของลูกสูบ ถ้าสึกมากหรือชำรุดให้เปลี่ยนใหม่ทันที
4.ตรวจสอบสภาพของแหวนลูกสูบและช่องว่างของแหวนลูกสูบ ต้องได้ตามมาตรฐานตามที่คู่มือกำหนด
5.วัดระยะห่างของปากแหวน
6.ตรวจสภาพการสึกหรอที่เกิดขึ้นจากการ
YouTube Video
การถอด-ประกอบเครื่องยนต์
YouTube Video
การประกอบฝาสูบเครื่องยนต์เล็ก
YouTube Video
ประกอบเครื่องยนต์เล็กเบนซิน 2 จังหวะ