ผู้วิจัย ได้เสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นตอนๆ เพื่อสะดวกต่อการทำความเข้าใจโดยเสนอเรียงตามลำดับดังนี้
ตอนที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มตัวอย่างในการทำวิจัย
ตอนที่ 2 วิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน
ตอนที่ 3 วิเคราะห์สรุปผลแบบประเมินความพึ่งพอใจของนักเรียน
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้ทำวิจัยได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับดังนี้
ตอนที่ 1 ผลการแสดงร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง
การวิจัยครั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 คน ซึ่งแบ่งเป็นนักเรียนชาย 11 คน นักเรียนหญิง 19 คน ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ตารางแสดงร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง
เพศ | N = 30 | ร้อยละ |
นักเรียนชาย | 11 | 36.67 |
นักเรียนหญิง | 19 | 63.33 |
จากตารางที่ 1 พบว่า กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชายร้อยละ 36.76 และนักเรียนหญิงร้อยละ 63.33
ตอนที่ 2 คะแนนผลสัมฤทธิ์การใช้ชุดกิจกรรมนิทานเรื่อง อยู่อย่างพอเพียง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปรากฏผลตามตารางที่ 2 ดังนี้
ผลรวมคะแนนสัมฤทธิ์ก่อนและหลังเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมนิทาน เรื่อง อยู่อย่างพอเพียง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปรากฏผลตามตารางที่ 2 ดังนี้
ตารางที่ 2 ตารางแสดงคะแนนผลสัมฤทธิ์ ชุดกิจกรรมนิทานเรื่อง อยู่อย่างพอเพียง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังของนักเรียนที่ได้รับการสอน
นักเรียน (30 คน) | คะแนน | ||
ก่อนเรียน | หลังเรียน | D | |
1 | 13 | 15 | -2 |
2 | 11 | 11 | 0 |
3 | 8 | 10 | -2 |
4 | 5 | 11 | -6 |
5 | 6 | 8 | -2 |
6 | 7 | 10 | -3 |
7 | 9 | 10 | -1 |
8 | 6 | 10 | -4 |
9 | 8 | 9 | -1 |
10 | 11 | 15 | -4 |
11 | 12 | 13 | -1 |
12 | 8 | 7 | 1 |
13 | 16 | 15 | 1 |
14 | 7 | 10 | -3 |
15 | 9 | 12 | -3 |
16 | 5 | 11 | -6 |
17 | 7 | 10 | -3 |
18 | 9 | 7 | 2 |
19 | 5 | 8 | -3 |
20 | 7 | 8 | -1 |
21 | 9 | 11 | -3 |
22 | 4 | 10 | -6 |
23 | 8 | 10 | -2 |
24 | 15 | 17 | -2 |
25 | 9 | 12 | -3 |
26 | 10 | 13 | -3 |
27 | 10 | 10 | 0 |
28 | 7 | 11 | -4 |
29 | 9 | 11 | -2 |
30 | 11 | 13 | -2 |
เลขที่ | ก่อนเรียน | หลังเรียน | D |
∑x S.D. | 261 8.7 2.81 26.10 | 328 10.93 2.38 32.80 | 67 - - - |
จากตารางที่ 2 พบว่า นักเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 8.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.81 ร้อยละของค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.10 และคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 10.93 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.38 ร้อยละของค่าเฉลี่ยเท่ากับ 32.80 แสดงให้เห็นว่า เมื่อนักเรียนได้รับการสอนนักเรียนจะได้รับผลสัมฤทธิ์ที่ดีกว่า
ตอนที่ 3 ผลเฉลี่ยความพึ่งพอใจของนักเรียน
การวิจัยครั้งนี้เก็บข้อมูลจากแบบประเมินความพึ่งพอใจหลังเรียนของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ จำนวน 30 คน โดยวิเคราะห์หาค่าสถิติ คือค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานได้ผลเฉลี่ยดังตาราง
ตารางที่ 3 ตารางแสดงผลรวมการวิเคราะห์ความพึ่งพอใจของนักเรียนต่อแบบฝึกทักษะ
ที่ | ความพึ่งพอใจ (N=30) | S.D. | การแปลผล | |
1 | ขนาด รูปแบบ สวยงาม | 4.75 | 7.38 | มากที่สุด |
2 | ความเหมาะสมของขนาดตัวอักษร | 3.5 | 10.27 | มาก |
3 | ความเหมาะสมของการใช้ภาษา | 4.5 | 11.81 | มากที่สุด |
4 | ช่วยส่งเสริมหรือพัฒนาสติปัญญาผู้เรียน | 3.75 | 10.39 | มาก |
5 | เนื้อหาเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ | 4 | 12.86 | มาก |
6 | รูปภาพประกอบในการนำเสนอ | 4.25 | 12.31 | มาก |
7 | ความน่าสนใจในหนังสือ | 5 | 8.15 | มากที่สุด |
8 | ประโยชน์ที่ได้รับ | 4.75 | 11.31 | มากที่สุด |
9 | ความเหมาะสมในการเชื่อมโยงภาพและข้อความ | 3.25 | 9.41 | ปานกลาง |
10 | การลำดับความยากง่ายของเนื้อหาใน บทเรียน | 4.5 | 6.28 | มากที่สุด |
เฉลี่ย | 4.23 | 10.02 | มาก/มากที่สุด |
จากตารางที่ 3 พบว่าระดับความพึ่งพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ อยู่ในระดับพึ่งพอใจมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ความพึ่งพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนเป็นอย่างมากในด้านขนาด ความเหมาะสม ความน่าสนใจของหนังสือ ในด้านรูปแบบการจัดการเรียนการสอน (