การจดทะเบียนพาณิชย์ หรือ เรียกง่ายๆ ว่า ‘การจดทะเบียนการค้า’ นั้นสำคัญอย่างไร การจดทะเบียนการค้านั้นถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับคนที่จะประกอบธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เนื่องจากว่าเป็นเครื่องมือยืนยันตัวตนว่าเราเป็นใคร ทำธุรกิจประเภทใด มีสถานที่ประกอบกิจการเป็นหลักแหล่ง แต่ก็มีบางธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนการค้าก็ได้ คือ พ่อค้า แม่ค้าแผงลอย ธุรกิจเพื่อการกุศลและศาสนารวมถึง กระทรวง ทบวง กรม มูลนิธิ สมาคม และสหกรณ์
การจดทะเบียนการค้าสำหรับบุคคลธรมมดา
- กิจการขายสินค้า ซึ่งคิดรวมทั้งสิ้นในวันหนึ่งขายได้เป็นเงินตั้งแต่ 20 บาทขึ้น ไป หรือมีสินค้าไว้เพื่อขายมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นเป็นเงินตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป
- กิจการหัตถกรรมหรืออุตสาหกรรม และขายสินค้าที่ผลิตได้ คิดราคารวมทั้ง สิ้นในวันหนึ่งวันใดเป็นเงินตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป หรือในวันหนึ่งวันใดมีสินค้าที่ ผลิตได้มีราคารวมทั้งสิ้นตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป
- กิจการที่ซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือ อีคอมเมิร์ซ
การจดทะเบียนการค้าสำหรับนิติบุคคล
- กิจการที่ขาย ให้เช่า ผลิต หรือรับจ้างผลิต แผ่นซีดี แถบบันทึก วีดีทัศน์ แผ่น วีดีทัศน์ ดีวีดี หรือแผ่นวีดีทัศน์ระบบดิจิทัล เฉพาะที่เกี่ยวกับการบันเทิง
- กิจการที่ขายอัญมณี หรือเครื่องประดับซึ่งประดับด้วยอัญมณี
- กิจการที่ซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ เครื่องข่ายอินเตอร์เน็ต
- การให้บริการฟังเพลงและร้องเพลงโดยคาราโอเกะ
- การให้บริการเครื่องเล่นเกมส์
ทั้งนี้ ประเภทกิจการใดที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรม พัฒนาธุรกิจการค้า ที่หมวดคู่มือการจดทะเบียนพาณิชย์ โดยกำหนดเวลากิจการต้องจดทะเบียนพาณิชย์ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่เริ่มประกอบกิจการ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ต้องจดทะเบียนการค้าหรือไม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันหลายๆคนมาเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ผ่านช่องทางที่มีอยู่มากมายเช่น Facebook Instagram ที่เป็นช่องทางที่มีคนใช้เยอะที่สุดในประเทศไทย เป็นกลุ่มลูกค้าวงกว้าง ดังนั้น ผู้ประกอบการค้าขายออนไลน์ก็ต้องคำนึงก่อนว่าตนเองนั้นจะจดเป็นิติบุคคลหรือไม่ หรือจะขายเป็นลักษณะบุคคลธรรมดาก็ต้องคำนึงตอนคำนวณภาษีสิ้นปีด้วย
ซึ่งการจดทะเบียนการค้าหากเราค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ สิ่งทีเราต้องคำนึงถึงก็คือ ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว พ่อค้าแม่ก็จะได้รับเลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และสามารถนำเครื่องหมาย Registered นำไปแสดงไว้ บน Web Site หรือ Home Page เพื่อแสดงว่าได้จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วข้อดี ของการจดทะเบียนการค้า จะช่วยให้เรามีความน่าเชื่อถือ เมื่อใครเห็นเว็บไซต์ของเราก็จะมั่นได้ว่าเราเชื่อถือได้ มีความปลอดภัยไม่ได้หลอกลวง
แต่หลายๆคนอาจจะไม่มั่นใจว่าเว็บไซต์ที่ตัวเองทำนั้นจำเป็นต้องจดทะเบียนหรือไม่ ดังนั้นเราจะมาสรุปเงื่อนไข ของเว็บไซต์ที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กับ ที่ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเลกทรอนิกส์
เว็บไซต์ที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- มีระบบสั่งซื้อ เช่น ระบบแบบฟอร์ม ระบบตะกร้า E-mail หรืออื่นๆ
2. มีระบบการชำระเงิน ออฟไลน์ หรือ ออนไลน์ เช่น การโอนเงินผ่านระบบบัญชี การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
3. มีระบบสมาชิก เพื่อรับบริการข้อมูลหรืออื่นๆโดยมีการคิดค่าใช้จ่าย (ถือเป็นขายบริการ)
4. มีวัตถุประสงค์หลักในการรับจ้างโฆษณาสินค้าหรือบริการอื่นๆ และมีรายได้จากโฆษณานั้นๆ
5. รับจ้างออกแบบเว็บไซต์ หรือเพียงโฆษณาว่าตัวเองเป็นผู้รับจ้างออกแบบเว็บไซต์
6. เว็บไซต์ที่บริการเกมส์ออนไลน์ที่คิดค่าบริการผู้เล่น (เจ้าของเว็บต้องจดทะเบียน)
7. เว็บไซต์ที่มีการส่งมอบสินค้าหรือบริการผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น การ download เพลงโปรแกรม เกมส์ ringtone screensaver SMS เป็นต้น
เว็บไซต์ที่ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- มีเฉพาะหน้าร้านโชว์สินค้าของตนเอง แต่ทำการค้าในช่องทางปกติ(ไม่ใช่อินเทอร์เน็ต) แม้จะมีข้อความแจ้งว่าให้ติดต่อได้ เช่น สนใจติดต่อ…. หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…..
2. การโฆษณาสินค้าของตนเอง โดยลักษณะการโฆษณานั้นไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของกิจการและไม่ใช่ช่องทางการค้าปกติ แม้จะมี banner ของผู้อื่นมาติดและมีรายได้จาก banner ก็ตาม
3. การประชาสัมพันธ์หรือเผยแพร่ข้อมูลแก่สมาชิกหรือบุคคลทั่วไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือบริการ เช่น เพื่อการสอน ประกาศรับสมัครงาน
4. การประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท หรือ สินค้า
5. เว็บไซต์(ส่วนตัว) ที่สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว การงาน การศึกษา หรือความสนใจส่วนตัว
6. เว็บไซต์เป็นสื่อกลางข้อมูล โดยมีจุดประสงค์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยไม่มีการเสียค่าสมาชิกหรือค่าใช้จ่ายใดๆ
จะเห็นได้ว่าการจดทะเบียนการค้า ถือเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นประโยชน์มากๆแก่พ่อค้าแม่ค้าทุกท่าน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของท่านมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
รู้จักฟีเจอร์ของเรา
สมัครสมาชิก
ทะเบียนพาณิชย์ คือ ทะเบียนที่คนที่ค้าขายที่มีหน้าร้านต้องจดตามที่พระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 กำหนด แต่ปัจจุบันมีร้านค้าออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย ต่อมาจึงได้มีการจดทะเบียนธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่งเกิดขึ้น นั่นคือ ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ทะเบียนพาณิชย์ กับ ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- ทะเบียนพาณิชย์ เป็นการจดทะเบียนร้านค้าสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจค้าขายทุกประเภทและมีหน้าร้าน
- ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นการจดทะเบียนพาณิชย์สำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจออนไลน์มีร้านเป็นของตัวเอง
ทะเบียนพาณิชย์
การจดทะเบียนพาณิชย์ จะเป็นเครื่องการันตรีความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการค้าขาย ซึ่งใช้กับธุรกิจค้าขายขนาดเล็ก ทำกิจการที่มีเจ้าของเพียงคนเดียว ทำการค้าขายแบบง่ายไม่ซับซ้อน หรือนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศมาตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทย โดยมีทั้งธุรกิจที่บังคับต้องจดทะเบียนพาณิชย์ และที่ได้รับการยกเว้นดังนี้
ธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์
สำหรับบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของคนเดียว ห้างหุ้นส่วนสามัญ และนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศมาตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทย ที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
- ธุรกิจเกี่ยวกับโรงสีข้าวและโรงเลื่อยที่ใช้เครื่องจักร
- ธุรกิจขายสินค้าอย่างเดียวหรือหลายอย่างที่ขายได้ 20 บาทขึ้นไปต่อวัน หรือมีสต็อกสินค้าไว้ขายรวมมูลค่าทั้งหมดเป็นเงิน 500 บาทขึ้นไป
- นายหน้าหรือตัวแทนขายที่ทำการเกี่ยวกับสินค้าอย่างเดียวหรือหลายอย่าง และสินค้านั้นมีมูลค่ารวมทั้งหมดเป็นเงิน 20 บาทขึ้นไปต่อวัน
- ธุรกิจหัตถกรรมหรืออุตสาหกรรมอย่างเดียวหรือหลายอย่าง ที่ขายสินค้าที่ผลิตได้ 20 บาทขึ้นไปต่อวัน หรือวันหนึ่งวันใดมีสินค้าที่ผลิตรวมมูลค่าทั้งหมด 500 บาทขึ้นไป
- ธุรกิจขนส่งทางทะเล ขนส่งโดยเรือกลไฟหรือเรือยนต์ประจำทาง รถไฟ รถราง รถยนต์ประจำทาง การขายทอดตลาด การรับแลกเปลี่ยน หรือซื้อขายเงินตราต่างประเทศ การซื้อหรือขายตั๋วเงิน การธนาคาร การโพยก๊วน การทำโรงรับจำนำและการทำโรงแรม การรับซื้อขายที่ดิน การให้กู้ยืมเงิน
- ธุรกิจขาย ให้เช่า ผลิต หรือรับจ้างผลิต แผ่นซีดี แถบบันทึก วีดิทัศน์ แผ่นวีดิทัศน์ ดีวีดี หรือแผ่นวีดิทัศน์ระบบดิจิตอลเฉพาะที่เกี่ยวกับบันเทิง
- ธุรกิจให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้อินเตอร์เน็ต
- ธุรกิจขายอัญมณี หรือเครื่องประดับที่ประดับด้วยอัญมณี
- ธุรกิจให้บริการฟังเพลงและร้องเพลงคาราโอเกะ
- ธุรกิจให้บริการเครื่องเล่มเกม
- ธุรกิจให้บริการตู้เพลง
- ธุรกิจโรงงานแปรสภาพ แกะสลักและงานหัตถกรรมจากงาช้าง การค้าปลีกและค้าส่งงาช้างและผลิตภัณฑ์จากงาช้าง
ธุรกิจที่ได้รับ “ยกเว้น” จดทะเบียนพาณิชย์
ทั้งนี้ บุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัด ที่ได้รับการยกเว้นจดทะเบียนพาณิชย์ ได้แก่
- ธุรกิจค้าเร่ แผงลอย
- ธุรกิจเพื่อการบำรุงศาสนาหรือเพื่อการกุศล
- ธุรกิจของนิติบุคคลที่มีพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้น
- ธุรกิจของกระทรวง ทบวง กรม
- ธุรกิจของมูลนิธิ สมาคม สหกรณ์
- ธุรกิจที่กลุ่มเกษตรกร
- ธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นตามที่รัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ได้แก่ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญ ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่ยกเว้นนิติบุคคลในข้อ 6-12 ของธุรกิจที่บังคับให้จดทะเบียนพาณิชย์ และข้อ 1-4 ของธุรกิจที่บังคับให้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ยังคงต้องจดทะเบียนพาณิชย์ และทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อยู่
ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นการจดทะเบียนธุรกิจสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจออนไลน์ มีการชำระเงินในรูปแบบออนไลน์ตามแพลตฟอร์มนั้นๆ และมีร้าน เพจ เว็บไซต์เป็นของตัวเอง จะต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และที่ได้รับการยกเว้นได้แก่
ธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- ธุรกิจซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือขายของ-ออนไลน์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้งทางเว็บไซต์ เฟชบุ๊ก เพจ ฯลฯ
- บริการอินเตอร์เน็ต
- ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
- เป็นตลาดกลางในการซื้อขายหรือบริการสินค้าออนไลน์
ธุรกิจที่ได้รับ “ยกเว้น” จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในกรณีที่ธุรกิจซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ แต่ถ้าไม่สามารถชำระเงินในรูปแบบออนไลน์ตามแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้ ธุรกิจออนไลน์เหล่านี้สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ธรรมดาได้ หรือถ้าหากเป็นการขายสินค้าผ่าน Shopee LAZADA ฯลฯ ก็ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
วิธีการจดทะเบียนพาณิชย์ และทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
วิธีการจดทะเบียนพาณิชย์มีดังนี้
- เตรียมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของธุรกิจ
- เตรียมแบบคำขอจะทะเบียนพาณิชย์ แบบ ทพ.
- แผนที่แสดงสถานที่ตั้งร้าน
- หากเป็นนิติบุคคลให้เตรียมหนังสือรับรองบริษัท
- เตรียมเงินจำนวน 50 บาท
- หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ หรือสัญญาเช่า (กรณีเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เจ้าของสถานที่)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของกรรมสิทธิ์ (กรณีเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เจ้าของสถานที่)
- สำเนาหนังสืออนุญาต หรือหนังสือรับรองให้เป็นผู้จำหน่ายจากเจ้าของลิขสิทธิ์ (สำหรับธุรกิจข้อ 6 ทะเบียนพาณิชย์)
- หลักฐานแสดงจำนวนเงินทุน ยกเว้นนิติบุคคล (สำหรับธุรกิจข้อ 8 ทะเบียนพาณิชย์)
ส่วนวิธีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้น ทำเหมือนการจดทะเบียนพาณิชย์ แต่เพิ่มเอกสารดังนี้
- เอกสารประกอบการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (เอกสารแนบแบบ ทพ.)
- ปริ๊นต์หน้าแรกของร้านค้าออนไลน์ เอกสารเกี่ยวกับเว็บไซต์ เช่น วิธีการสั่งซื้อ วิธีการชำระเงิน วิธีการส่งสินค้า
โดยสามารถยื่นจดทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต สำนักงานเศรษฐกิจการคลังสำนักการคลัง เทศบาล อบต. ที่ธุรกิจของเจ้าของธุรกิจตั้งอยู่เท่านั้น หรือใช้บริการสำนักงานบัญชีให้ดำเนินการขอจดทะเบียนให้ได้เช่นกัน
จดบริษัทแล้ว ยังต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนการค้าอีกหรือไม่
“หากจดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคล ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ แต่ถ้าจดบริษัททำการค้าขายผ่านออนไลน์ มีร้านของตนเอง ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย”
ดังนั้น เราแนะนำว่าหากใครที่เริ่มมีธุรกิจเป็นของตนเอง ก่อนขอจดทะเบียนธุรกิจ ต้องเลือกประเภทธุรกิจของตนเองก่อนว่าอยู่ในประเภทไหน อยู่ในประเภทธุรกิจค้าขายทั่วไป (ทะเบียนพาณิชย์) หรือค้าขายออนไลน์ (ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) จากนั้นเตรียมเอกสารให้พร้อม ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ของประเภทนั้นๆ แล้วยื่นขอจดทะเบียนได้เลย
นอกจากเป็นการยืนยันว่าธุรกิจนั้นถูกต้องตามกฎหมาย หมดกังวลหากเกิดการตรวจสอบในภายหลังแล้ว ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า และไม่มีภาระในการทำบัญชีหรือยื่นส่งงบการเงินแก่สรรพากร มีความเป็นอิสระในการประกอบธุรกิจได้อย่างเต็มที่