พร บ สถานประกอบการดูแลผู้ สูงอายุ

กระทรวงสาธารณสุขประกาศใช้กฎหมายคุมกิจการดูแลผู้สูงอายุ ย้ำผู้ประกอบกิจการรายใหม่ทุกราย ต้องขออนุญาตก่อนเปิดกิจการ ส่วนผู้ดำเนินการ ผู้ให้บริการหรือพนักงานทุกรายต้องผ่านการอบรม ผ่านการสอบ มีใบอนุญาต สบส. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 ม.ค.64

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมแถลงข่าวประกาศมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพและการส่งเสริมกิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง

นายสาธิต กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 ทำให้กิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง เช่น เนอร์สซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือโรงพยาบาลผู้สูงอายุ เป็นต้น ที่ปัจจุบันมีประมาณ 3,000 แห่ง ซึ่งทุกแห่งต้องได้มาตรฐาน ทั้งด้านสถานที่ การบริการ และความปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกกฎกระทรวงกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 มาตรา 3(3) ผู้ประกอบกิจการรายใหม่ทุกราย ต้องขออนุญาตก่อนเปิดกิจการ ส่วนผู้ดำเนินการต้องผ่านการอบรม ผ่านการสอบ และมีใบอนุญาตจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ผู้ให้บริการหรือพนักงานทุกรายที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุต้องผ่านการอบรม จบจากหลักสูตรที่กรม สบส. รับรอง และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการก่อนที่จะปฏิบัติงาน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 มกราคม 2564

“การกำหนดให้กิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง เป็นกิจการที่ต้องได้รับการดูแลมาตรฐานภายใต้ พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพฯ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีกฎหมายนี้เพราะจะส่งเสริมให้สถานประกอบการมีคุณภาพมาตรฐาน และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี เป็นการขับเคลื่อนระบบการคุ้มครองผู้บริโภคของไทยให้เป็นที่ยอมรับ และมีศักยภาพ สามารถแข่งขันในระดับอาเซียนและระดับโลกได้” นายสาธิตกล่าว

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง และพนักงานที่ทำอาชีพนี้ ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการ ขอใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการ และขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ ในวันที่ 27 มกราคม 2564 - 25 กรกฎาคม 2564 ได้ที่ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จของกรม สบส. ตั้งอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข ซ.สาธารณสุข 8 ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วนภูมิภาคติดต่อที่ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1-12 หรือ ทางเว็บไซต์ www.esta.hss.moph.go.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง HOT LINE 1426 (โทรฟรีทุกเครือข่าย ในวันและเวลาราชการ)

  • เกาะติดสถานการณ์

  • กิจการดูแลผู้สูงอายุ
  • กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

  • 242 views

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผย มีกิจการดูแลผู้สูงอายุ ยื่นขอขึ้นทะเบียนตามกฎหมายใหม่ เพียง 100 จาก 3,000 แห่งขีดเส้นตาย ต้องขออนุญาตก่อน 25 .. นี้ ขณะที่ผู้ให้บริการฯ ลงทะเบียนแค่หลักพันจากจำนวน 2.8 หมื่นทั่วประเทศ 

นับตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม เป็นต้นมา สถานประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ไม่ว่าจะเป็นรายเก่า หรือ รายใหม่ จะต้องขออนุญาตเปิดกิจการ โดยขึ้นทะเบียนกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตามกฎกระทรวงกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ..2559  ซึ่งมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค และเป็นการส่งเสริมให้สถานประกอบการมีคุณภาพมาตรฐาน และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี 

แต่จนถึงปัจจุบันมีกิจการมายื่นขออนุญาตประกอบกิจการในระบบเพียง100 แห่งจากกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ

โดยกิจการดูแลผู้สูงอายุ ที่มายื่นขออนุญาตฯแล้ว จำนวน 90 เปอร์เซ็นต์เป็นกิจการประเภทที่มีการดูแลและประคับประคองผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงโดยมีการพักค้างคืน 

ขณะที่การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯนั้น พบว่ามียื่นขอขึ้นทะเบียนฯเข้ามาในระบบกว่า 1,000 ราย จากที่คาดว่าทั้งประเทศมีผู้ให้บริการฯ 28,000 รายเท่านั้น

สำหรับผู้ให้บริการในกิจการดูแลผู้สูงอายุฯนั้น หลักเกณฑ์ใหม่กำหนดว่าจะต้องจบหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุไม่น้อยกว่า 420 ชม. แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1) กลุ่มที่จบและมีวุฒิบัตร/ประกาศนียบัตรหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุฯไม่น้อยกว่า 420 ชม.ก่อนที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยต้องรีบขอขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 หากพ้นกำหนดจากนี้ ต้องเทียบเคียงหรือไปสมัครเรียนหรืออบรมใหม่จากสถาบันที่ได้รับรองหลักสูตรจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเท่านั้น

2) ผู้ที่เริ่มเรียนหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุไม่น้อยกว่า 420 ชม. ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ และได้รับวุฒิหลังวันที่ 27 มกราคม 2564 ให้ยื่นขอขึ้นทะเบียนภายใน 6 มกราคม 2565 

และ3) กลุ่มสุดท้าย ผู้ที่เริ่มเรียนหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ 420 ชม. หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะสามารถขึ้นทะเบียนได้ก็ต่อเมื่อเรียนจบจากสถาบันที่ได้รับรองหลักสูตรจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเท่านั้น โดยต้องขึ้นทะเบียนก่อนที่จะปฏิบัติงานด้วย

ขณะที่เจ้าของกิจการดูแลผู้สูงอายุฯนั้น หากเป็นรายเก่าที่เปิดกิจการก่อนที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ให้ยื่นขออนุญาตภายในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ส่วนรายใหม่ต้องมีใบอนุญาตก่อน จึงจะสามารถเปิดกิจการได้ 

ที่มา : กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก