กล่าวคือ หากคนเรารับรู้ว่าตนเองมีจุดเด่นและเป็นการรับรู้ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง ก็จะส่งผลให้เขารับรู้ตนเองเป็นไปในทางด้านบวก มีความรู้สึกที่ดีกับตนเอง มีความภาคภูมิใจ พร้อมทั้งมีการแสดงออกอย่างเหมาะสม
Roger ได้กล่าวถึงความรู้สึกเห็นคุณค่าในตนเองไว้ว่า การเห็นคุณค่าในตนเองเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินตนเองระหว่างตัวตนตามความเป็นจริงและตัวตนตามอุดมคติ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ บุคคลที่มีการยอมรับในตนเองได้ และสามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับความเป็นจริง จะเป็นบุคคลที่มีการมองเห็นคุณค่าในตนเอง
ตามแนวคิดนี้ บุคคลที่มีคุณค่าในตนเองสูง (high self-esteem) จะมีความสามารถในการเผชิญกับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และสามารถยอมรับสถานการณ์ที่ทำให้ตนเองรู้สึกผิดหวังและท้อแท้ใจด้วยความหวังและความกล้าหาญ มีการประเมินตนเองในทางบวก มีความเชื่อมั่นในความสามารถจนมั่นใจได้ว่าตนเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จตามที่ต้องการ โดยภาพรวมแล้ว บุคคลที่มีการเห็นคุณค่าในตนเองสูงจะมีความสุขและใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ
ในทางตรงกันข้าม บุคคลที่มีการเห็นคุณค่าในตนเองต่ำ (low self-esteem) จะมองเห็นตนเองหรือมีความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองในอุดมคติที่ขัดแย้งหรือไม่สอดคล้องกับตนเองตามความเป็นจริง อาจเกิดความเครียด ความกดดัน มีสภาพจิตใจที่หดหู่ เพราะรับรู้ว่าตนเองไม่มีค่า ไม่มีความภาคภูมิใจ ไม่กล้าแสดงออก ขาดความกระตือรือร้น ไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดการปัญหาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง
นอกจากนี้ ตามแนวคิดของ Maslow ได้แบ่งการเห็นคุณค่าในตนเองออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกเกี่ยวข้องกับความรู้สึกรับรู้ในคุณค่าของตนเอง การยอมรับนับถือและการประเมินคุณค่าของตนเอง อันได้แก่ การมีจุดเด่น ผลสัมฤทธิ์ ความสามารถที่เหมาะสมต่อสภาพการณ์ต่างๆ การบรรลุเป้าหมายและความสามารถ ความเชื่อมั่น การพึ่งพาตนเอง และความมีอิสระเสรี ส่วนประเภทที่สองเกี่ยวข้องกับการตัดสินว่ามีคุณค่าจากผู้อื่น เช่น การมีชื่อเสียง การได้รับการยอมรับ ได้รับความสนใจ เกียรติยศ สถานภาพ การมีอำนาจเหนือผู้อื่น มีความสำคัญ ศักดิ์ศรี เป็นที่ชื่นชมของผู้อื่น เป็นต้น
สอดคล้องกับแนวคิดการเห็นคุณค่าในตนเองของ Coopersmith ที่ได้แบ่งองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการเห็นคุณค่าในตนเองออกเป็นองค์ประกอบภายในและองค์ประกอบภายนอก โดยองค์ประกอบภายในตนเอง หมายถึง ลักษณะเฉพาะของบุคคลแต่ละคนที่ส่งผลให้บุคคลมีการเห็นคุณค่าในตนเอง ตั้งแต่ลักษณะทางกายภาพ ความสามารถ ค่านิยม ตลอดจนสุขภาวะทางจิต ส่วนองค์ประกอบภายนอกตนเอง หมายถึง สภาพแวดล้อมภายนอกที่บุคคลมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ทั้งครอบครัว บุคคลในโรงเรียน ที่ทำงาน รวมถึงสังคมและวัฒนธรรมที่อาศัยอยู่
จากความหมายและองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเห็นคุณค่าในตนเองที่ได้กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าการเห็นคุณค่าในตนเองของบุคคลนั้นสามารถพัฒนาโดยเริ่มจากตนเอง ต่อมาที่ครอบครัว กลุ่มเพื่อน และสังคมตามลำดับ ซึ่งจากสิ่งที่สังคมให้คุณค่านั้นก็สามารถมีอิทธิพลย้อนกลับไปที่การเห็นคุณค่าในตนเองของบุคคลได้ และถ้าหากบุคคลมีการเห็นคุณค่าในตนเองต่ำก็จะมีผลกระทบก่อให้เกิดปัญหาขึ้นตามมาในขั้นต่อไปได้ โดยเฉพาะปัญหาทางด้านบุคลิกภาพ และอาจก่อให้บุคคลเกิดความเครียดหรือความวิตกกังวลได้ รวมทั้งมีปัญหาในสังคมที่ตนเองอยู่ด้วย ดังนั้น ผู้ที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำจึงควรสร้างเสริมการเห็นคุณค่าในตนเองให้มากขึ้น
โดย Greenberg & Gold (1994) ได้เสนอแนะวิธีการต่างๆ ไว้ดังนี้
- เรียนรู้ที่จะยอมรับและมั่นใจในความสามารถของตนเองที่มี พยายามชื่นชมตนเองและรู้จักเห็นคุณค่าในตนเอง
- บอกกับตนเองในสิ่งที่ดีๆ ในทางสร้างสรรค์ เช่น ฉันมีความสามารถ ฉันทำงานชิ้นนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
- หาสิ่งที่ตนเองทำได้ดี อาจเป็นงานอดิเรกต่างๆ ที่ทำให้เกิดความรู้สึกดีและมีความสุข ซึ่งช่วยให้บุคคลมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นและกล้าที่จะทดลองกระทำสิ่งใหม่ๆ ต่อไป
- ใช้คำแทนตัวเองว่า “ฉัน” เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของตนเอง ไม่กลัวการวิพากษ์วิจารณ์จากบุคคลอื่นและยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับตน
- มีแรงสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อนที่ไว้วางใจและพูดคุยได้อย่างเปิดเผย กลุ่มเพื่อนที่ดีมักจะไม่สร้างความกดดันหรือล้อเลียนให้บุคคลขาดความมั่นใจ แต่จะพยายามช่วยสร้างความรู้สึกดีที่และเพิ่มความมั่นใจให้แก่บุคคล
- ต้านทานแรงกดดันจากกลุ่มเพื่อน พยายามตัดสินใจด้วยตัวเอง ออกความคิดเห็นให้มากขึ้นถูกชักจูงให้น้อยลง
- กระทำสิ่งต่างๆ ด้วยความซื่อตรง กระทำในสิ่งที่สอดคล้องกับค่านิยมและความปรารถนาของตนเอง
- มีความรับผิดชอบต่อบุคคลอื่น เพราะการเห็นคุณค่าของบุคคลอื่นเป็นคุณสมบัติของผู้ที่ชื่นชมและเห็นคุณค่าในตนเอง
ข้อมูลจาก
“ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพแบบวิตกกังวล การมองโลกในแง่ดี และการเห็นคุณค่าของตนเองของนิสิตมหาวิทยาลัย” โดย ทรงเกียรติ ล้นหลาม (2550) – //cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/35446
“ประสบการณ์การเห็นคุณค่าในตนเองของนักศึกษาที่มีภาพถ่ายที่น่าดึงดูดใจทางเพศผ่านเฟซบุ๊ค” โดย พันธิตรา คูวัฒนสุชาติ (2557) – //cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/44514
Self Esteem หรือการเห็นคุณค่าในตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิต ซึ่งการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาวได้ ดังนั้น การตระหนักถึงความสำคัญในการสร้าง Self Esteem จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
Self Esteem คือ อะไร ?
Self Esteem คือ ความคิดเห็นที่มีต่อตัวเอง ซึ่งส่งผลต่อความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต รวมถึงการรับมือกับอารมณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยผู้ที่มี Self Esteem สูงนั้นจะมีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง
ในทางกลับกัน การมี Self Esteem ต่ำจะส่งผลให้รู้สึกแย่และมีมุมมองความคิดต่อตัวเองในแง่ลบ ซึ่งเป็นเหตุให้ขาดความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่าง ๆ และรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถในการเผชิญหน้ากับปัญหาหรือความท้าทายในชีวิต
สาเหตุทำให้มี Self Esteem ต่ำ
การมี Self Esteem ต่ำเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก โดยมีอิทธิพลมาจากความคิดที่บุคคลใกล้ชิดหล่อหลอมเด็ก รวมถึงอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เด็กมี Self Esteem ลดต่ำลงได้ด้วยเช่นกัน เช่น การถูกกลั่นแกล้งหรือทำร้ายร่างกาย ความเครียด ปัญหาสุขภาพร่างกายหรือจิตใจ ปัญหาเกี่ยวกับการเรียนการทำงาน และปัญหาด้านความสัมพันธ์อย่างการหย่าร้างของพ่อแม่ เป็นต้น
นอกจากนี้ บุคลิกภาพก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้มี Self Esteem ลดลงได้ เช่น บางรายอาจตั้งมาตรฐานของตัวเองไว้สูงจนเกินความสามารถ เมื่อทำไม่ได้จึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีหรือโทษตัวเอง เป็นต้น
Self Esteem ต่ำ ส่งผลอย่างไร ?
การมี Self Esteem ที่ต่ำหรือลดต่ำลงอาจส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ โดยอาการที่มักพบ ได้แก่ เกลียดตัวเอง รู้สึกไร้ค่าหรือรู้สึกเหมือนไม่มีใครชอบ มีปัญหาในการตัดสินใจ โทษตัวเอง ไม่มีความสุข ไม่ค่อยมีความมั่นใจ รู้สึกผิดเมื่อใช้เวลาหรือใช้จ่ายเงินเพื่อความสุขของตัวเอง ไม่เห็นข้อดีของตัวเอง ไม่เชื่อในคำชื่นชมของผู้อื่นที่มีต่อตนเอง เป็นต้น
ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป อาการเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอย่างโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวลได้ นอกจากนี้ การมี Self Esteem ต่ำยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในหลาย ๆ ด้าน เช่น
- มีปัญหาด้านความสัมพันธ์ ผู้ที่มี Self Esteem ต่ำอาจพยายามอดทนต่อทุกการกระทำของคนรักหรือคนใกล้ชิด โดยไม่พูดหรือระบายความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมา เพื่อรักษาความสัมพันธ์ไว้แม้ตนเองจะรู้สึกไม่ดีก็ตาม หรือมีความคิดว่าตัวเองไม่มีวันเป็นที่รัก ส่งผลให้ความสัมพันธ์ลดลงจนมีปัญหาร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้ บางรายอาจแปรเปลี่ยนความรู้สึกดังกล่าวเป็นความโกรธและทำร้ายหรือกลั่นแกล้งผู้อื่นได้เช่นกัน
- เก็บตัว หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องพบปะกับผู้อื่น เพราะคิดว่าผู้อื่นอาจรู้สึกไม่ชอบตนเอง
- กลัวการเริ่มต้นใหม่ โดยอาจขาดความสามารถในการริเริ่มหรือทำในสิ่งที่ท้าทาย หรือทำสิ่งที่เป็นความท้าทายไม่ได้ เพราะเชื่อว่าพวกเขาไม่มีความสามารถพอ
- ไม่กล้าตัดสินใจ หรือพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจ เพราะกลัวว่าจะตัดสินใจผิดพลาด
- นิยมความสมบูรณ์แบบ บางคนอาจกดดันตัวเองหรือผู้อื่นให้ทำในสิ่งที่สมบูรณ์แบบ
- มีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ ผู้ที่มี Self Esteem ต่ำมักละเลยการดูแลตัวเอง และเสี่ยงมีพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพมากขึ้นด้วย เช่น ติดยาเสพติด ติดสุรา มีความผิดปกติในการรับประทานอาหาร และบางรายอาจถึงขั้นคิดทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย เป็นต้น
Self Esteem สร้างได้อย่างไร ?
การเห็นคุณค่าในตัวเองเป็นสิ่งที่ฝึกฝนให้เกิดขึ้นได้ โดยเริ่มจากตัวเองหรือการสนับสนุนจากคนรอบข้าง เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้