แผนการ สอน บันได 4 ขั้น ภาษาไทย

การอ่านและการเขียนภาษาไทยเป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นต่อการเรียนรู้  ตลอดจนการดำเนินชีวิตประจำวันของคนไทยทุกคน กล่าวคือ  คนที่มีทักษะในด้านการอ่านและการเขียนอยู่ในเกณฑ์ดีก็จะสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ในสาขาวิชาต่างๆได้ดี  และสามารถสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล  

จากความสำคัญและความจำเป็นของการอ่านและการเขียนดังกล่าว กระทรวงศึกษาธิการได้มีการรณรงค์ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยให้อ่านออกเขียนได้ตามเกณฑ์มาตรฐานการเรียนรู้ระดับชั้นเรียน เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ในระดับชั้นที่เรียนและในระดับชั้นที่สูงขึ้นไปได้เป็นอย่างดี ตลอดจนใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบได้พยายามส่งเสริมและพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของเด็กไทยมาเป็นเวลาหลายสิบปี  จากรายงานผลการประเมินการอ่านการเขียนของนักเรียนในระดับประเทศ และรายงานผลการประเมินการอ่านการเขียนของนักเรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา พบว่า  ยังมีนักเรียน    ที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานการเรียนรู้ระดับชั้นเป็นจำนวนมาก

จากรายงานดังกล่าวคงเป็นประเด็นที่น่าสงสัยว่าทำไมนักเรียนที่ยังอ่านไม่ออกเขียนได้จึงยังมีจำนวนมาก ทั้งๆ ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบทุกระดับได้พยายามกระตุ้นและส่งเสริมมาตลอดเป็นระเวลาหลายสิบปีแล้ว ก็ตาม  เป็นไปได้ว่าการที่เด็กเหล่านั้นยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้อาจเนื่องมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้    การใช้สื่อการสอน  ตลอดจนการจัดสภาพห้องเรียนและบรรยากาศการเรียนรู้ของครูผู้สอนยังไม่สอดคล้องกับพัฒนาการทางสมอง และวิธีการเรียนรู้ตามวัยของผู้เรียน จึงเป็นสาเหตุให้นักเรียนเหล่านั้นไม่บรรลุผลในการเรียนรู้  จึงส่งผลให้พวกเขาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ตามวัยและระดับชั้น

              เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต ๔  ร่วมกับชมรมครูภาษาไทย สพป.ขอนแก่น เขต ๔  จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาทักษะภาษาไทยด้วยบันได  ๕  ขั้น (ห้องเรียนภาษาพาเพลิน)  ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการย้อนยุค โดยครูจัดการเรียนการสอนไปตามลำดับเนื้อหาอย่างครบถ้วน  โดยใช้กิจกรรมแบบบันไดทักษะ  ๕  ขั้น   คือ 

ขั้นที่หนึ่ง   หาเรื่องให้สนุก

ขั้นที่สอง   แจกลูกสะกดคำ

ขั้นที่สาม  อ่านย้ำนำวิถี

        ขั้นที่สี่       คัดลายมือให้ถูกวิธี

        ขั้นที่ห้า     เขียนตามคำบอกทุกวัน

 กล่าวคือ ขั้นที่หนึ่งครูผู้สอนอาจใช้กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียนด้วยเพลง, เกม , นิทาน , หรือ ของจริง  ฯลฯ เพื่อสร้างบรรยากาศ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้และกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความพร้อมก่อนเข้าสู่บทเรียน    ขั้นที่สอง เน้นให้ครูอ่านออกเสียงแจกลูกผันเสียงนำนักเรียน  และจากนั้นในขั้นที่สาม    ให้นักเรียนเปล่งเสียงอ่านตาม   ทั้งคำเดี่ยวและ คำประสม จากนั้น ในขั้นที่สี่ ฝึกคัดลายมือให้สวยงาม และถูกต้องตามรูปแบบตัวอักษรที่กำหนด จากคำที่ฝึกในขั้นที่หนึ่งและขั้นที่สอง  ส่วนในขั้นสุดท้ายคือ    ขั้นที่ห้าให้ฝึกเขียนคำ เขียนคำตามคำบอก เขียนคัดลายมือ และเขียนกลุ่มคำ   ตามแบบฝึกในหนังสือ    อ่านได้แล้วฝึกเขียนตามคำบอก และเขียนคัดลายมือตามลำดับไปทีละบททีละเดือน จากง่ายไปหายาก

                  ในการนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔  โดยกลุ่มนิเทศ  ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา  ร่วมกับชมรมครูภาษาไทย สพป.ขอนแก่น ๔ ได้ร่วมประชุม  วางแผน  และกำหนดแนวทางในการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบบันได  ๕  ขั้น  รวมทั้งรวบรวม และเรียบเรียง  สื่อ /แบบฝึก  เพื่อให้ครูใช้ประกอบการสอนตามรูปแบบ ดังกล่าวข้างต้น  ทั้งนี้ครูผู้สอนสามารถนำสื่อที่จัดทำให้นี้นำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม

    ขอขอบคุณคณะทำงานทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะทำงานชมรมครูภาษาไทย สพป.ขอนแก่น เขต ๔  ที่ได้ร่วมออกแบบและยกร่างแนวทางการจัดกิจกรรมห้องเรียนภาษาพาเพลิน  ตลอดจนจัดทำสื่อ/แบบฝึก เพื่อพัฒนาการอ่านการเขียนของนักเรียนในครั้งนี้  หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารูปแบบการพัฒนาทักษะภาษาไทยด้วยบันได  ๕  ขั้น  ตลอดจนสื่อ/แบบฝึก ที่จัดทำให้นี้ จะทำให้ครู และโรงเรียนเกิดแนวทาง              

     ในการที่จะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนสามารถอ่านออก เขียนได้  ตามวัยและช่วงชั้น  ได้ในลำดับต่อไป

      สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔

       การอ่านเป็นทักษะที่สำคัญในการดำเนินชีวิตและการเรียนรู้ นักเรียนควรได้รับการพัฒนาทักษะการอ่านอย่างเหมาะสม โรงเรียนวิชากร สำนักงานเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการแก้ปัญหาการอ่านของนักเรียนโดยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลายซึ่งจะช่วยในการพัฒนาทักษะการอ่านของผู้เรียนได้ ดังนี้

          1. การพัฒนาจากครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยการจัดกิจกรรม PLC เรื่อง การพัฒนาการอ่านด้วยบันไดทักษะ 4 ขั้น ของ ศิวกานท์ ปทุมสูติ ซึ่งการจัดการเรียนรู้ตามหลัก "บันไดทักษะ 4 ขั้น” ของ ศิวกานต์ ปทุมสูติ มีขั้นตอนดังนี้

   ขั้นที่หนึ่ง แจกลูก ให้ผูกจำ ในขั้นตอนนี้ครูผู้สอนจะนำคำที่นักเรียนควรทราบจากบทเรียนมาฝึกให้นักเรียนอ่านคำโดยใช้วิธีอ่านสะกดคำทีละคำและฝึกอ่านพร้อมกับครู

   ขั้นที่สอง อ่านคำ ย้ำวิถี  ในขั้นตอนนี้ให้นักเรียนฝึกสะกดคำและอ่านออกเสียงด้วยตนเองอีกครั้ง

   ขั้นที่สาม คัดลายมือ ซ้ำอีกที ให้นักเรียนคัดคำที่ได้เรียนรู้ลงในสมุดจดบันทึก

   ขั้นที่สี่ "เขียนตามคำบอก" ทุกชั่วโมง ครูฝึกใ?ห้นักเรียนเขียนตามคำบอกจากคำในบทเรียน

ซึ่งครูผู้สอนในกลุ่มสาระภาษาไทยจะนำหลักการดังกล่าวไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับแผนการจัดการเรียนรู้ของตน ซึ่งอาจจะสอดแทรกขั้นตอนดังกล่าวในขั้นนำขั้นสอน หรือขั้นสรุปตามความเหมาะสมของเนื้อหาและรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในแต่ละระดับชั้น


2. การทดสอบการอ่านรายเดือน เพื่อเป็นการประเมินความสามารถการอ่านของนักเรียนในแต่ละเดือน โดยครูประจำชั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบในการประเมินทักษะการอ่านของนักเรียน ขั้นตอนในการดำเนินกิจกรรมมีดังนี้

2.1 ครูประจำชั้นรับเอกสารประเมินการอ่านประจำเดือนจากครูผู้รับผิดชอบกิจกรรม

2.2 ครูประจำชั้นดำเนินการทดสอบการอ่านและประเมินผลการอ่านของนักเรียน

2.3 ครูประจำชั้นรายงานผลการประเมินการอ่านและส่งผลการประเมินการอ่านประจำเดือนให้กับครูผู้รับผิดชอบกิจกรรม

2.4 ครูประจำชั้นซ่อมเสริมการอ่านนอกเวลาให้แก่นักเรียนที่มีผลการประเมินในระดับควรปรับปรุง

3. การจัดกิจกรรมอุ้มบุญ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยพัฒนาการอ่านของนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกหรืออ่านไม่คล่อง โดยขั้นตอนการดำเนินงานมีดังนี้

3.1 ครูประจำชั้นและครูประจำวิชาภาษาไทย ประเมินทักษะการอ่านของนักเรียนในชั้นเรียนของตนเอง และรวบรวมรายชื่อนักเรียนที่อ่านไม่ออกหรืออ่านไม่คล่อง

3.2 ประชุมเพื่อวางแผนการดำเนินงานกิจกรรมอุ้มบุญ โดยให้ครูทุกท่านรับผิดชอบการพัฒนาทักษะการอ่านให้กับนักเรียนที่อ่านหนังสือไม่ออกหรืออ่านไม่คล่อง ครู 1 ท่านต่อนักเรียน 3 คน

3.3 ครูดำเนินการตามแผนปฏิบัติงาน นัดหมายนักเรียนฝึกอ่านในช่วงพักกลางวันหรือหลังเลิกเรียน และเขียนรายงานการพัฒนาการอ่านในแบบบันทึกการพัฒนาการอ่านกิจกรรมอุ้มบุญ

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก